รีวิวหนังผี The Conjuring
หนังผีที่ดีที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ในใจเรา แน่นอนว่ามี The Conjuring (2013) ติดโผอยู่ในนั้นด้วยถ้าใครเคยดู The Conjuring ก็คงจำฉากเปิดเรื่อง ที่เป็นเรื่องราวหลอนๆ รีวิวหนังผี The Conjuring ของตุ๊กตา Annabelle กันได้(แม้กระทั่งในช่วงการดำเนินเรื่อง ก็ยังมีตุ๊กตาผีตัวนี้มาเป็น sub plot แทรกอยู่ด้วย)
รีวิวหนังผี และเขาว่ากันว่า Before THE CONJURING, there was ANNABELLEซึ่งเรื่องราวฉบับเต็มๆ ของตุ๊กตาผี Annabelle จะเข้าโรงฉายในประเทศไทย วันที่ 2 ต.ค. 2014
บล็อกนี้จึงขอขุดระลึกถึง The Conjuring กันสักหน่อยว่าตอนนั้นเรารีวิวหนังเรื่องนี้ไว้ว่าอย่างไร
ในด้านความบันเทิง The Conjuring ทำได้ดี ผู้กำกับฯ เค้าสร้างบรรยากาศเก่ง น่ากลัวจริง ลุ้นจริง ตื่นเต้นจริง หลอนจริง และแอบมีติดตลกเบาๆอย่างฉากคลาสสิกของหนังผี เช่น ฉากกินยาหน้ากระจก หรือฉากก้มลงมองหาผีใต้เตียง เรื่องนี้เค้าก็มี แต่แตกต่างจากหนังผีเรื่องอื่นๆ
ความน่ากลัวของเรื่องอาจจะลดลงในช่วงท้ายๆ เรื่อง เพราะไปลุ้นกับการที่ผีสิงคนมากกว่า แต่ก็ยังตื่นเต้นและชวนลุ้นอยู่ดี(แปลกที่เรารู้สึกกลัวช่วงผีสิงคนน้อยกว่าช่วงที่ผียังไม่สิงคน หรือมันจะจริงที่ว่า เรามักจะกลัว “สิ่งที่เรามองไม่เห็น”)
ดูหนังออนไลน์ ทั้งหมดนี้คงต้องชื่นชมการจัดแสง ฉาก และซาวด์ประกอบ เราว่าเค้าทำถึงจริงๆ
ในตัวบท เนื่องจากเรื่อง The Conjuring นี้ Based on true story เรื่องราวจึงดำเนินตามท้องเรือง ไม่ได้หวือหวาจากสูตรสำเร็จทั่วไปมากนักแต่ซีนห้องใต้ดินที่มีของเก่าๆ มากมาย ทำให้นึกถึงหรือได้ฟีลหนังเรื่อง Cabin in the Woods (2012)และซีนที่เด็กๆ เล่นปรบมือซ่อนแอบ ก็ทำให้นึกถึงหนังผีสเปนเรื่อง The Orphanage (2007)แต่เราไม่ได้ว่าว่าเขาลอกเลียนแบบจากหนังเรื่องอื่น เพราะเราถือว่าเขาสร้างจากเรื่องจริงบ้านในชนบทก็มักมีห้องเก็บของใต้ดินเป็นเรื่องปกติ เด็กๆ ก็ชอบเล่นซ่อนหากันเป็นเรื่องปกติสากลโลก
ส่วนการดำเนินเรื่องค่อนข้างฉับไว ไม่น่ารำคาญ อย่างตอนที่ค้นพบที่มาของบ้านผีสิงก็เฉลยได้ปุบปับดี
ดูหนัง 4k ในส่วนของการเก็บรายละเอียด โดยรวมคือทำออกมาเกือบเพอร์เฟ็กต์ละเป็นหนังผีไม่กี่เรื่อง ที่พยายามใส่รายละเอียดความสัมพันธ์ภายในครอบครัวซีนอารมณ์ ฉากที่ต้องกลัวก็ทำให้คนดูกรี๊ดได้ ฉากที่ต้องลุ้นก็ทำออกมาลุ้นดี ฉากที่ต้องซึ้งก็ทำได้อิน เรียกว่าเข้าถึงทุกอารมณ์ถึงแม้ประเด็นครอบครัวทำมาโอเค แต่การเก็บดีเทลในส่วนอื่นๆ ก็ยังมีช่องโหว่อยู่
และบางดีเทลก็ดูเกินๆ แบบไร้ค่า แบบว่าไม่รู้จะใส่มาในหนังทำไมอย่างรถสีแดงที่พังแล้วของครอบครัว จะพูดถึงทำไม มีสัญลักษณ์แฝงอะไร (หรือเราไม่เข้าใจเอง -3-)อย่างซีนความสัมพันธ์ของผู้ช่วยหมอผีกับลูกสาวคนโตของบ้าน ที่มีฉากนึงเหมือนจะปิ๊งกัน 30 วิฯ แล้วก็หายไปเลย (แล้วจะมีฉากกุ๊กกิ๊กแต่แรกทำไม)แล้วพื้นหลังของตัวลูกสาวคนโต ที่ฉากแรกมา ดูนางเป็นเด็กที่มีปัญหาสุดในบรรดาพี่น้อง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดถึงนางเท่าไหร่นักส่วนลูกสาวคนเล็กที่เหมือนจะเป็นกุญแจสำคัญ เพราะนางเป็นคนเดียวที่สื่อกับผีได้โดยตรง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่านั้น
ในส่วนของนักแสดง ทุกคนเล่นได้ดี โดยเฉพาะเด็กๆ น่าชื่นชมสุด อายุยังน้อยแต่แสดงได้ดี ฉากกลัวก็ดูกลัวจริงๆ ร้องไห้ซะเรากลัวตามนางเลยแอบชอบลูกสาวคนรองสุดท้อง แสดงโดย Mackenzie Foy (ลูกสาว Edward & Bella จาก Twilight)น้องคนนี้น่ารักมาก โตไปน่าจะสวยและน่าจะรุ่ง แต่เสียดายเรื่องนี้ยังบทเด่นไม่เท่าลูกสาวคนเล็กอีกคน บทของนางมีแต่ฉากละเมอแล้วเอาหัวชนฝา ปังๆ
การปราบผีเรื่องนี้มันยากตรงที่ครอบครัวนี้ไม่เข้าโบสถ์ ไม่เคยทำพิธีล้างบาป ไม่ค่อยเชื่อในพระเจ้าว่างั้น (ฮั่นแน่ แอบสอดแทรกศาสนาให้คนดู)แล้วเห็นเขาว่าคริสต์นิกายแคทอลิกไม่เชื่อเรื่องผี แบบถ้าตายแล้วก็ไปอยู่อีกโลกเลย ถ้าเชื่อ เขาจะเชื่อเรื่องภูติผีปิศาจหรือซาตานกับแม่มดมากกว่าที่เราตลกคือ มีฉากนึงที่ตัวละครพูดว่า “ผมไม่เชื่อว่าแวมไพร์มีอยู่จริง” แล้วภาพ Mackenzie Foy ลูกสาวคนรองสุดท้อง (Renesmee จาก Twilight) ลอยมาแต่ไกล
รีวิวหนังผี The Conjuring
เมื่อปีที่แล้วเราเปรียบเทียบ The Conjuring กับหนังที่เข้าฉายในช่วงไล่ๆ กันอย่างเรื่อง The Purgeในเรื่องของความสนุกและโปรดักชั่น เราเทคะแนนให้ฝั่ง The Conjuringทั้งสองมีความแตกต่างในเชิงเรื่องราวคือ The Conjuring เป็นความสยองที่เกิดจากผี ส่วน The Purge เกิดจากคน
ดูหนัง แต่ไม่ว่าจะคนหรือผี สิ่งที่เรากลัวคือ “สิ่งที่เรามองไม่เห็น” หรือ “สิ่งที่แตกต่างจากเรา”
อย่างผีที่เรามองไม่เห็น หรือผีที่ตอนจบมาสิงในร่างคน อย่างใน The Conjuring มันก็น่ากลัวในแบบของมันเราไม่เห็นผีอ่ะ จู่ๆ ใครมาดึงขากูตอนนอนวะ หรือตอนมันมาให้เห็น เราก็ตกใจอีก แม่งหน้าตาทุเรศ เหม็นอีกต่างหากส่วน The Purge มันก็เหมือนปิศาจในร่างมนุษย์ คนปลดปล่อยความเป็นปิศาจในตัวเอง มันก็น่ากลัวไปอีกแบบคนก็น่ากลัวตรงที่บางคนเขาไม่เป็นแบบที่เราเห็น คนเฟคๆ แบบนี้คือน่ากลัวหรือคนที่คิดต่างจากเรา เราก็มองว่าเขาน่ากลัว เพราะเราเห็นว่าเขาไม่ใช่พวกเดียวกับเรา
ความกลัวอาจจะเป็นเรื่องที่ควบคุมยาก ไม่ว่าจะกลัวคนหรือกลัวผีแต่ถ้าคุณได้ดูทั้ง The Purge และ The Conjuring คุณจะรู้เองว่า…ในปีนี้ เรามีหนังสยองขวัญที่โดดเด่นเข้ามาฉายในบ้านเราแล้ว หนังเรื่องนี้สร้างด้วยทุนเพียง 13 ล้านเหรียญ แต่ดูสิ นับถึงวันนี้มันโกยเงินเพียงให้อเมริกาไปผ่านไปถึง 130 ล้านเหรียญเข้าไปแล้ว นี่ยังไม่รวมรายได้จากทั่วโลกอีก นับว่าเป็นหนังสยองขวัญที่สร้างกำไรอย่างงดงามในห้กับสตูดิโออย่างยิ่ง แถมยังเป็นหนังสยองขวัญที่ทำเงินได้สูงสุดในรอบ 10 ปีทีเดียว
ใช่แล้ว มันจะเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้ นอกจาก ‘The Conjuring คนเรียกผี’ ผลงานการกำกับโดย James Wan ผู้มีเครดิตอันยอดเยี่ยมมาจากหนังหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะ Saw, Saw II และ Insidious ไม่เพียงเท่านี้ เขากำลังจะมีผลงานตามมาอย่าง Insidious Chapter 2 ภายในปีนี้ และ Fast & Furious 7 ในปีหน้าอีกด้วยนะ
รู้สึกจะคุยฟุ้งไปเยอะแล้ว นายแพทขอกลับมาว่ากันเรื่องตัวหนึ่งต่อดีกว่า
‘คนเรียกผี’ เป็นหนังที่เริ่มต้นเรื่องด้วยการบอกว่า “นี่คือเรื่องจริง” เมื่อเขาพาเราไปรู้จักกับบุคคลคู่หนึ่งที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์การปราบผีในยุคสมัยนั้น Lorraine Warren (Vera Farmiga) และ Ed Warren (Patrick Wilson) สองสามีภรรยาที่ออกมาบรรยายพร้อมฉายคลิปของแต่ละเคสที่พวกเขาไปเจอมา สิ่งเหล่านี้ น่าจะทำให้คนดูเชื่ออย่างสนิทใจว่ามันคือเรื่องจริง เพื่อจะได้อินและมีอารมณ์มากขึ้นในช่วงเวลาถัดๆ มาของหนัง
พวกเขาพูดถึงเคสๆ เดียวที่มันถูกปิดตาย เราจะย้อนมันกลับไปในปี 1971 เรื่องราวของบ้านหลังหนึ่งที่ครอบครัวที่น่ารักครอบครัวหนึ่งเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ ครอบครัวนี้มี Roger Perron (Ron Livingston) และ Carolyn Perron (Lili Taylor) เป็นหัวหน้าครอบครัวของลูกสาวทั้งห้า มี Andrea (Shanley Caswell) เป็นลูกสาวคนโต บ้านหลังเก่าที่มีต้นไม้ใหญ่อยู่หน้าบ้าน สะพานท่าน้ำ ทุกอย่างดูเหมาะเจาะ น่าจะเป็นบ้านผีสิงที่น่ากลัวสำหรับทุกคนได้ แต่พวกเขาก็เข้ามาอยู่ และค่อยๆ เจอสิ่งผิดปกติมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมๆ กับเจอสิ่งที่เลวร้ายที่หาคำอธิบายอื่นไม่ได้มากขึ้นและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนต้องตามสามีภรรยาคู่นั้นมาช่วยเหลือ
มันอาจจะไม่ใช่พล็อตที่แปลกใหม่อะไรนัก สำหรับเรื่องราวของครอบครัวที่ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านที่มีผีร้ายหลอกหลอน แต่หนังก็ทำออกมาได้อย่างมีชั้นเชิง เขาค่อยๆ เพิ่มความน่ากลัวของความหลอนทีละขั้น โดยไม่เล่นกับมุขเดิมซ้ำไปซ้ำมา แต่เลือกที่จะเล่นให้มันต่างกันไปเรื่อยๆ สลับกับมุขตุ้งแช่ที่มาไม่บ่อยนัก ซึ่งกลับได้ผลชะงัด
ดูหนังออนไลน์ 4k ขณะที่งานดนตรีประกอบก็ทำออกมาได้อย่างสุดยอด Joseph Bishara ควรได้รับเครดิตนี้ ไม่เพียงเท่านั้น เขายังเป็นส่วนหนึ่งของตัวละครสำคัญในหนังด้วย เพราะเขาเล่นเป็นผีในเรื่องนั่นเอง
ในด้านของงานภาพ จุดที่นับว่าน่าทึ่งมากก็คงจะเป็นช่วงของการถ่ายทำในแบบ long take ที่เหมือนจะเป็นมุมมองของผีด้วยซ้ำ แถมยังได้ข่าวมาว่า เป็นผลผลิตจากการตัดต่อ ไม่ได้ถ่ายแบบ long take กันจริงๆ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ต้องทึ่งกันอีกรอบเพราะทำได้แนบเนียนมาก มองดูแล้ว ผู้กำกับน่าจะชอบงานในยุคเก่าๆ อยู่พอสมควร แต่ James Wan เลือกที่จะจัดวางของให้ดูเข้าที อีกทั้งยังไม่เล่นอะไรที่เลอะๆ แหวะๆ แต่ขับเน้นความน่ากลัวและลูกล่อลูกชนในการดำเนินเรื่องแทน ช่วงท้ายของหนังนั้นน่าตื่นเต้นมาก น่าเสียดายอยู่อย่างที่บทจะจบก็ลงเอยแบบทุกอย่างหายไปในทันทีทันใดอย่างนั้นเลย