รีวิวหนัง แฝด
หากใครที่กำลังตามหาหนังไทยที่มีความหลอนสั่นประสาทอยู่แล้วล่ะก็เราขอแนะนำหนังเรื่อง “แฝด” เลยค่ะ ชื่อภาษาอังกฤษคือ “Alone” เป็นหนังของทางค่าย GTH ในปี 2007 รีวิวหนัง แฝด โดยได้ผู้กำกับหลัก คือ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ที่เคยเป็นผู้กำกับในหนัง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ และได้นักแสดงนำอย่างมาช่า วัฒนพานิช มาเล่นเป็นนางเอกด้วย
รีวิวหนังผี แค่ชื่อของผู้กำกับกับนักแสดงมากฝีมือระดับประเทศก็ทำให้อยากดูจนทนไม่ไหวแล้วใช่ไหมล่ะคะ งั้นเราตามไปอ่านรีวิวกันเลยดีกว่าก่อนที่จะดูหนังเต็ม
เว็บดูหนังฟรี ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “พิมพ์” ที่ได้กลับมาบ้านเกิดเมืองไทยหลังจากไปใช้ชีวิตอยู่กับแฟนที่ประเทศเกาหลี เพราะได้ข่าวการป่วยหนักของแม่ เมื่อได้กลับมาอยู่บ้านเกิดที่จากไปนานหลายปีทำให้อดีตต่าง ๆ ที่เจ็บปวดของเธอเมื่อครั้งยังใช้ชีวิตกับ “พลอย” แฝดน้องที่ตัวติดกันพลันกลับมาอีกครั้ง
ตั้งแต่เกิด “พิมพ์”กับ “พลอย”ก็เป็นแฝดสยามที่ตัวติดกัน ทุกคนมองว่าพวกเธอเป็นตัวประหลาด แต่ถึงอย่างไรทั้งสองก็ยังคงรักกันเสมอ จวบจนโตขึ้นพวกเธอจึงตัดสินใจที่จะเข้ารับการผ่าตัดแยกกัน
แต่การผ่าตัดผิดพลาดทำให้พลอยเสียชีวิต พิมพ์ที่ได้กลับมาบ้านจึงต้องคอยหลบหนีจากอดีตและวิญญาณของพลอยที่ตามหลอกหลอนโดยไม่รู้สาเหตุ เธอจะสามารถอยู่ในบ้านหลังนี้อย่างเป็นสุขหรือไม่ แล้วแฝดเธอจะหายแค้นได้หรือเปล่า รอชมกัน
เว็บดูหนัง มีความน่าสนใจตรงที่ตัวหนังได้ใช้เรื่องราวของแฝดสยามที่มีเพียงไม่กี่คู่ในประเทศไทยมาเป็นจุดที่ดึงดูดคนเข้ามาดูและทำให้เราอยากรู้ว่าเหตุใดแฝดที่เมื่อครั้งยังมีชีวิตดูรักกันดี เมื่อมีฝ่ายหนึ่งตายไปก็เลือกที่จะมาตามหลอกหลอนราวกับแค้นเคืองแฝดพี่ถึงขนาดนั้น
หนังจะมีสแกรี่จั๊มป์ค่อนข้างเยอะ เล่นกับความสลัวของตัวบ้านหลังใหญ่ได้คุ้มจนหลอนตาม ๆ กันทำเอาเรานอนไม่หลับไปเลยเมื่อนึกถึงฉากติดตามที่ตอนพิมพ์นอนบนเตียงมีขาของผีแฝดน้องห้อยต่องแต่งลงมา โชคดีที่ทุกครั้งพระเอกที่เป็นแฟนพิมพ์ก็มักจะมาช่วยเอาไว้เสมอซึ่งหนังก็จะค่อย ๆ เฉลยตั้งแต่กลางเรื่องเป็นต้นไปหลังจากที่ปล่อยความกลัวขั้นสุดมากมายจนทำให้เราไม่เข้าใจผีพลอยเลยจริง ๆ ว่าจะแค้นอะไรขนาดนั้น
โดยหนังได้มีการเล่าเรื่องย้อนไปถึงตอนที่คู่แฝดเจอพระเอกที่มารักษาขาที่โรงพยาบาลซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ทั้งสองเมาเข้ารับการผ่าตัดแยกร่างกัน ด้วยความที่พระเอกเป็นคนที่อ่อนโยน เป็นมิตร ไม่รังเกียจพวกเธอเหมือนคนอื่นทำให้ทั้งคู่สนิทกัน มักใช้เวลาว่างในโรงพยาบาลออกมานั่งเป็นแบบให้พระเอกวาดรูป จากความสนิทจึงทำให้แฝดพิมพ์กับพลอยต่างตกหลุมรักพระเอกเหมือนกัน เฮ้ย!
แต่สุดท้ายพระเอกก็หลงรักพิมพ์ทำให้พลอยเริ่มเกลียดพิมพ์จนสุดท้ายก็กินยาฆ่าตัวตาย หลังการผ่าตัดแยกร่างสำเร็จ พิมพ์ก็ได้ไปเรียนเมืองนอกกับพระเอก แต่เรื่องมันกลับมีจุดพีคอีกชั้นที่บางคนอาจเดาออก แต่ไม่ขอบอกดีกว่า ไม่ดูกันเอาเอง แต่เป็นเราเราเองก็เจ็บปวดแทนวิญญาณแฝดเหมือนกัน พี่น้องทำกันได้
หนัง Alone แฝดได้ให้แง่คิดกับเราว่าความรักและความหลงย่อมทำลายมิตรภาพของมนุษย์ที่รักกันมากได้แม้แต่พี่น้องที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลาก็ไม่เว้น ฉะนั้นเราควรรักทุกคนแบบพอดี อย่ารักมาก ควรรักแบบกลาง ๆ เผื่อใจเพื่อที่เมื่อถึงจุดเปลี่ยนของชีวิตจะได้ไม่เสียใจในตัวคนที่รักจนไปไหนไม่ได้และเอาแต่ผูกเวรกรรมต่อกัน ให้คิดว่ามันเป็นธรรมดาของจิตใจมนุษย์
แฝด , เข้าใจพิม เข้าใจพลอย เข้าใจ”แฝด”
…ก่อนเข้าโรงหนัง น้องคนหนึ่งบอกผมว่า ผมน่าจะชอบหนังเรื่องนี้ เพราะมีประเด็นทางจิตวิทยาที่น่าจะเข้าทางชอบ ผมเองก็คิดมาก่อนแล้วว่าผมน่าจะชอบ เพราะ หนังเรื่องนี้เป็นผลงานของ ผู้กำกับคู่ดูโอ บรรจง ปิสัญธนะกูล และ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ จาก ชัตเตอร์ 1ใน 3 หนังผีที่มาชอบมากที่สุด (อีกสองคือ ตู้ซ่อนผี และ Ringu หรือ The ring เวอร์ชั่นญี่ปุ่น)
หนังเริ่มต้นเรื่องได้อย่างน่าสนใจ
พิม อาศัยอยู่กับคนรักที่เกาหลี
ในงานวันเกิดของเธอ เพื่อนๆจัดงานปาร์ตี้เลี้ยงฉลองวันเกิด และ แน่นอน กิจกรรมสุดฮิตในปาร์ตี้คือ การดูหมอ
เพื่อนของเธออ่านไพ่ของเธอแล้วบอกเธอว่า เธอเองเป็นคนมีอะไรมักจะเก็บไว้ไม่พูดออกมา
ไพ่ทำนายทายทักว่า สิ่งที่เธอสูญเสียไปกำลังจะกลับมา
บางสิ่งที่เคยสัญญาไว้จะกลับมาทวงถาม
แล้วก็ตามมาด้วยข่าวร้ายที่ว่า แม่ของเธอเส้นเลือดในสมองแตก เธอจึงต้องรีบกลับเมืองไทยพร้อมกับคนรัก
และที่นั่น คำทำนายของไพ่ ก็กลายเป็นจริง เมื่อ คนดูและ วี – คนรักของเธอ จะได้ไปรู้จักกับอีกหนึ่งชีวิตที่เกิดมาเคียงคู่กับพิม นั่นคือ พลอย คู่แฝดสยาม ที่ พิมเล่าให้ฟังว่า เสียชีวิตจากการผ่าตัดแยกร่าง
เป็นความผิดผม ที่ดันเคยไปอ่านเนื้อหาพล็อตใกล้เคียงประมาณนี้มาก่อนแล้ว ในนิยายสยองขวัญเกี่ยวกับแฝด(แต่ไม่สยาม) จาก หนังสือ โกธ คดีตัดข้อมือ ที่พูดถึง แฝดคนหนึ่งเข้าสวมรอยชีวิตอีกคนที่ตายไป หนังสือบรรยายให้เราเข้าใจผิดไปเป็นอีกคน ซึ่งทั้งสองคนนั้นมีบุคลิกต่างกันโดยสิ้นเชิง
แถมตัวเองยังชอบดูหนังผี และ ชอบอ่านนิยายลึกลับเขย่าขวัญสยองขวัญกระตุกขวัญสะเทือนขวัญ …ขวัญฯลฯ
รีวิวหนัง แฝด
หนังใหม่ ดังนั้น ถึงแม้ว่า ก่อนไปดูแฝด ผมพยายามจะไม่อ่านกระทู้ที่เล่าถึงหนังมาก และ ตั้งใจว่าจะไม่พยายามเดาเนื้อเรื่องแล้วก็ตาม แต่เพราะ ยุคสมัยที่หนังผีเฟื่องฟู และ พล็อตหนังผีถูกสร้างมาซ้ำๆหลายต่อหลายเรื่อง คนที่ชอบอ่านหรือชอบดูหนังแนวนี้บ่อยๆก็ย่อมจะ เดาเนื้อหาได้ แม้จะไม่ตั้งใจ
นอกจาก กรอบของหนังกับการเป็นเรื่องของ ฝาแฝด บีบให้เดาเนื้อเรื่องได้ง่ายแล้ว ตัว แฝด เองก็มีบทหนังที่ใจดีไปหน่อย จากการส่งคำใบ้มาถี่ๆเหลือเกิน และ คำใบ้ที่ให้มาเป็นจิ๊กซอว์ที่ประกบกันได้เร็วเกินไป (บุคลิกของนางเอกที่เพื่อนหมอดูทายไว้ ,แฝดสองคนที่นิสัยต่างกันชัดเจน , แว่นที่โผล่มาหลอกให้ตายใจ , บุคคลที่สามที่โผล่มารักใครคนหนึ่งและอีกคนเริ่มอิจฉา , แม่พยายามจะบอกความจริง , รอยเท้าและรอยผ่าตัดที่บอกความเป็น ซ้าย – ขวา ,จิตแพทย์ถามว่าในกระจกเธอเห็นใคร )
แต่ การเดาได้ มิได้หมายความว่า หนังไม่ดี เพียงแต่ สิ่งที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งคือ หนังฟรี พล็อตของหนังเรื่องนี้ มีตาข่ายดักคนดูแค่ชั้นเดียว นั่นคือ ถ้าเดาได้เมื่อไหร่ ทุกอย่างในหนังสามารถอธิบายได้ทะลุปรุโปร่งจนจบ ไม่มีอะไรให้ท้าทายคนดูอีกเลยนอกจาก ฉากผีหลอก กันอย่างเดียว
จริงๆ ต้องชมความกล้า ที่ท้าทายคนดู ด้วยคำใบ้ตั้งแต่ตอนต้นๆ แต่หากผู้กำกับคิดจะใบ้ตั้งแต่ต้นเช่นนี้ หนังน่าจะมีปมประเด็นอะไรหลงเหลือไว้บ้าง เหมือนอย่าง The Prestige ที่ผู้กำกับ คริส โนแลน ก็ส่งคำใบ้ให้คนดูตลอดเวลา แต่ ถึงเราจะทายได้ ก็ใช่ว่า จะรู้ทุกอย่างของหนัง
เช่นเดียวกันกับ ชัตเตอร์ หรือ ตู้ซ่อนผี ที่แม้ว่าจะเดาได้หนึ่ง แต่หนังก็ยังมีประเด็นซุกซ่อนอีกหนึ่งให้เซอร์ไพรส์ เหมือนมี 2 twist บิดหักมุมให้อึ้งและหลอนทิ้งทวนก่อนเดินออกจากโรงหนัง หรือ หนังบางเรื่อง ไม่ได้เน้นการหักมุมอย่าง Ringu ก็ยังมีประเด็นที่แอบไว้ให้ประหลาดใจตามรายทาง และ น่าติดตามไปสู่จุดหมายตอนท้าย ด้วยอยากรู้บทลงเอยว่าจะเป็นเช่นไร หรือ One missed call หนังผีโคตรน่ากลัวที่ใส่ประเด็นจิตวิทยาจนดูไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ดูจบ เราก็ยังมีอะไรให้ต้องมาตีความ เช่นเดียวกับ เปนชู้กับผี ก็ยังมีอะไร ให้เซอร์ไพรส์มีประเด็นให้ขบคิดมาถกกันต่อ ว่าใครเป็นหรือไม่เป็นผี
…ถึงแม้ผมจะบ่นผิดหวังในพล็อตเรื่อง แต่ผมชอบ บทที่เล่นกับ “ความเป็นฝาแฝด” ให้เราได้เข้าใจว่า
ดูหนังออนไลน์ ทำไม พลอย ต้องมาเป็น พิม ?
… เรื่องราวทั้งหลายเริ่มต้นจาก ความรู้สึกต่ำต้อยด้อยค่า (low self esteem & self worth) ก่อนจะ มาสู่ประเด็นของ ความรู้สึกผิดบาปในใจ (guilt)
ความรู้สึกต่ำต้อยด้อยค่าในตัวเอง (low self esteem & self worth)
…ชีวิตของพิมและพลอย มีความทุกข์ภาคบังคับ ที่แตกต่างจากคนทั่วไป เป็นความทุกข์ที่เหมือนกับ นกในกรงใหญ่ ซึ่งดูเหมือนจะมีอิสระ แต่อิสระก็มีขอบเขตอยู่แค่ภายในกรง หากอยากจะไปไหนได้ไกลกว่านั้น ก็จำต้องพึ่งคนเลี้ยงให้ยกกรงพามันไป
…พิมกับพลอยก็เช่นกัน ชีวิตที่แม้จะมีอิสระเสรี แต่มันก็มีขอบเขต
ดูหนังฟรี พิมตาย พลอยก็ต้องตายตาม (ด้วยเหตุผลตามหลักวิทยาศาสตร์ ยิ่งถ้าใช้อวัยวะสำคัญร่วมกันยิ่งตายเร็วขึ้น)
ดังนั้น ถ้าใครคนใดคนหนึ่ง ไม่อนุญาติ ไม่ยอมเดินตาม อีกฝ่ายก็หมดสิทธิจะทำอะไรดั่งใจคิด
เราก็จะเห็นว่า การเป็นแฝดสยาม สิ่งที่ต้องสูญเสียคือ การมีชีวิตเป็นของตัวเอง
…โดยธรรมชาติ ตามทฤษฎีทางจิตวิทยา เด็กทุกคนเมื่อโตขึ้นจะต้องผ่านช่วงพัฒนาการที่เรียกว่า autonomy คือความอยากเป็นตัวของตัวเอง และ ความต้องการมีอิสระ( independence ) เด็กเริ่มที่จะแยกจากพ่อแม่โดยพ่อแม่ไม่ต้องตามติดตลอดเวลา เริ่มมีชีวิตส่วนตัว เมื่อผ่านช่วงนี้ไปได้ เด็กก็จะเติบโตเป็นวัยรุ่นเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว
แต่พิมและพลอย จะโตเพียงใด ก็ ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
ดังนั้น เชื่อเลยว่า แฝดสยามทุกคู่แม้จะรักกันมากเพียงใด อย่างน้อยในเสี้ยวหนึ่งของชีวิต ก็ย่อมไม่อาจหลบเลี่ยงความรู้สึกที่ผุดแวบขึ้นมากับการ ‘อยากเป็นอิสระ’
ยิ่งมาเกิดเหตุการณ์แบบในหนัง จึงไม่น่าแปลกใจที่ พิม จะประกาศออกมาชัดเจนถึงความรู้สึกไม่ต้องการอีกฝ่าย ซึ่งแท้จริงแล้ว ในตอนนั้นมันก็อาจเป็นแค่ คำตัดพ้อของเธอเท่านั้นไม่ได้คิดตัดอีกฝ่ายออกไปจริงจัง
แต่คำตัดพ้อนั้น กลับเป็นชนวนเริ่มต้นไปสู่จุดแตกหัก
จุดแตกหักที่ทำให้สองตัวละครต้องแยกจากกัน ดูผิวเผินเหมือนจะเป็นแค่เรื่องของผู้ชาย แต่หากมองเข้าไปภายในจิตใจจะพบ ปัจจัยสำคัญจริงๆ นั่นคือ ความรู้สึกด้อยค่าในตัวเอง (low self esteem & self worth) ความรู้สึกนี้เองที่เป็นบ่อเกิดเริ่มต้น ที่ทำให้ เธอเริ่มกินยาฆ่าตัวตาย ก่อนจะไปสิ้นสุดที่การทำร้ายพิม