Skip to content
รีวิวหนังผี รีวิวหนังสยองขวัญ รีวิวหนังลึกลับ สปอยหนังผี หนังสยองขวัญรีวิวหนังผี รีวิวหนังสยองขวัญ รีวิวหนังลึกลับ สปอยหนังผี หนังสยองขวัญ
  • หน้าแรก
  • แนวสยองขวัญ
  • แนวหนังลึกลับ
  • แนวระทึกขวัญ
  • ดูหนังออนไลน์
รวมบทความ, แนวสยอง

รีวิวหนัง A Tale of Two Sisters

Posted on 23 เมษายน 2022 by [email protected]

รีวิวหนัง A Tale of Two Sisters

ตู้ซ่อนผี จัดว่าเป็นหนึ่งใน “หนังผีในตำนาน” จากประเทศเกาหลีใต้ ที่สามารถกอบโกยรายได้จากผู้ชมในประเทศสหรัฐอเมริกามากเป็นประวัติการณ์  รีวิวหนัง A Tale of Two Sisters ความสำเร็จนี้ยังการันตีด้วยการที่ถูกนำไปสร้างใหม่อีกครั้งในชื่อ “The Uninvited” ที่นำแสดงโดย

“เอมิลี่ บราวนิ่ง” และ “อลิซาเบธ แบงค์” กันเลยทีเดียว ในขณะเดียวกัน หากมองในแง่ของความสยองขวัญและความแน่นของเนื้อหาแล้ว หนังผี A Tale of Two Sisters ตู้ซ่อนผี ก็ถือว่าล้ำหน้าหนังผีในยุคเดียวกันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ส่วนหนังผี A Tale of Two Sisters ตู้ซ่อนผี จะมีดีแค่ไหน ทำไมถึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนังผีที่ดีที่สุดตลอดกาลเรื่องหนี่ง มาลองติดตามอ่านรีวิวจากบทความชิ้นนี้กันเลย…
รีวิวหนัง A Tale of Two Sisters
รีวิวหนังผี หนังผี A Tale of Two Sisters ตู้ซ่อนผี เป็นเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่ถูกหลอกหลอนจากโศกนาฏกรรมการเสียชีวิตปริศนาภายในครอบครัว เมื่อสองสาวพี่น้องที่พักรักษาตัวอยู่ในสถาบันจิตเวชได้กลับมาอาศัยอยู่ในบ้านของพ่อและแม่เลี้ยงใจร้าย พวกเธอต้องเผชิญหน้าทั้งกับสภาพจิตใจของตัวเอง ความกดดันทางบ้านและเรื่องราวลี้ลับเหนือธรรมชาติที่ถาโถมเข้ามาหาพวกเธออย่างไร้ความปราณี
            สำหรับจุดเด่นของหนังผี A Tale of Two Sisters ตู้ซ่อนผี คือ การดำเนินเรื่องราวที่ไม่เป็น “เส้นตรง” อย่างที่หนังผีส่วนใหญ่ชอบทำกัน เรียกได้ว่าเป็นแนวเรื่องที่แปลกใหม่ในยุคนั้น แต่ละส่วนของเรื่องราวถูกนำมาปะติดปะต่อกันอย่างชาญฉลาด ผู้กำกับอย่าง Kim Jee-woon ให้ความสำคัญกับคุณภาพของการถ่ายทำอย่างมาก แถมดูเหมือนจะชำนาญในการเล่นตลกกับจิตใจของคนดูอาการ ทำให้หนังผี A Tale of Two Sisters ตู้ซ่อนผี จัดว่าเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกที่เต็มไปเด้วยความน่าสนใจตลอดทั้งเรื่องเลยทีเดียว
รีวิวหนัง A Tale of Two Sisters
            อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าหนังผี A Tale of Two Sisters ตู้ซ่อนผี จะมีความล้ำยุคของเรื่องราวเป็นอย่างมาก แต่ด้วยซับซ้อนนี้เอง ทำให้หลายคนอาจต้องดูมันซ้ำอีก 2-3 รอบ เพื่อที่จะสามารถทำความเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ เรียกได้ว่าต้องอาศัยประสาทตาและหูตลอดทั้งเรื่อง ทำให้เรื่องนี้อาจจะเป็นปัญหาสักหน่อยสำหรับคนที่มีสมาธิสั้น โดยเฉพาะในช่วงแรกที่เรื่องราวอาจดูค่อนข้างยากไปสักหน่อยสำหรับหลายคน แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินไปถึงช่วงท้าย เชื่อว่าก็จะคลี่คลายให้หายสงสัยได้พอสมควรเช่นกัน
โดยรวมแล้วหนังผี A Tale of Two Sisters ตู้ซ่อนผี น่าดูหรือเปล่า!?
รีวิวหนัง A Tale of Two Sisters
            สำหรับผู้เขียนแล้ว หนังผี A Tale of Two Sisters ตู้ซ่อนผี เป็นหนังที่ค่อนข้างเก่า แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงความ “เก๋า” แบบเหนือกาลเวลา ถ้าหากใครชื่นชอบหนังสยองขวัญ ที่ต้องอาศัยการสังเกตและใช้ความคิดควบคู่กันไปด้วย เชื่อว่าหนังผี A Tale of Two Sisters ตู้ซ่อนผี จะเหมาะกับการรับชมเพื่อเสพความหลอนที่มีคำอธิบายอย่างแน่นอน…
A Tale of Two Sisters ตู้ซ่อนผี เป็นภาพยนตร์สยองขวัญแนวจิตวิทยาจากประเทศเกาหลีใต้ โครงเรื่องดัดแปลงมาจากนิทานพื้นบ้านในสมัยราชวงศ์โชซอน ดูหนัง 4k ซึ่งเรื่องราวในนิทานเล่าถึงของ 2 พี่น้องที่ถูกแม่เลี้ยงทำร้ายจนตาย วิญญาณของพวกเธอจึงกลับมาล้างแค้น กำกับโดย คิม จี วูน ผู้ผ่านผลงานการกำกับภาพยนตร์สยองขวัญเกาหลีมาแล้วมากมาย
เป็นเรื่องราวของ ซูมี และ ซูยอน 2 พี่น้องที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชหลังเกิดโศกนาฎกรรมปริศนาภายในครอบครัว หลังกลับมาจากรักษาอาการป่วยที่ยาวนาน คราวนี้พวกเธอต้องเผชิญหน้ากับ อึนจู ภรรยาคนใหม่ของ มูฮุน ผู้เป็นพ่อ ซูมีตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อต้านอึนจูอย่างเต็มที่ แต่กับ ซูยอน ซึ่งเป็นน้องที่อ่อนแอกว่า โดนภรรยาคนใหม่ทารุณกรรมสารพัด จนถึงกับจับขังไว้ในตู้เสื้อผ้า และยังมีเรื่องราวลี้ลับเหนือธรรมชาติเกิดขึ้นภายในบ้านหลังนี้อยู่เรื่อยๆ ทำให้สองพี่น้องมีสภาพจิตใจย่ำแย่กว่าเดิม
กำลังมาแรงมากๆ (หนังไทยอย่าง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ดูหนังออนไลน์ 4k ก็ได้รับการกล่าวถึงและนำไปสร้างใหม่ในเวอร์ชันฮอลลีวูดเช่นกัน) สำหรับ ตู้ซ่อนผี เป็นหนัง Horror/Drama ที่เล่นกับจิตใจคนดูได้อย่างร้ายกาจ เป็นหนังสยองขวัญที่ไม่ได้เล่าเรื่องเป็นเส้นตรง และไม่ได้มีฉากตุ้งแช่ฟุ่มเฟือย ที่เมื่อเทียบกันกับบทภาพยนตร์ในยุคนั้นแล้ว ถือว่าเรื่องนี้มีบทที่ค่อนข้างแปลกใหม่ ล้ำยุคสมัย เนื้อหาลึกซึ้งกว่าบทหนังสยองขวัญเรื่องอื่นๆ
ตู้ซ่อนผี มีจุดเด่นที่บท และมุกหักมุมอันชาญฉลาด เป็นหนังสยองขวัญที่ไม่เน้นความน่ากลัวของผี แต่หนังประสบความสำเร็จในการสร้างบรรยากาศที่ไม่น่าไว้ใจ เกือบ 90% ของเรื่อง เป็นฉากในบ้านที่ทำออกมาหลอนใช้ได้เลย ไซโคกันเก่งมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตามทุกซีน และชวนระทึกได้ตั้งแต่ต้นจนนาทีสุดท้าย ถึงขนาดว่าหนังจบไปแล้ว แต่การเฉลยเหตุของโศกนาฏกรรมในเรื่อง ก็ยังชวนหดหู่ไม่น้อย อารมณ์หนังจบคนไม่จบ
สรุป: อาจไม่เหมาะกับคนที่ตั้งใจจะดูหนังผีล่าหลอนโหดๆ หรือ Jump Scare กันทุกอิริยาบท เพราะเรื่องนี้ ผีออกน้อยมาก แต่เน้นบรรยากาศหลอนๆ และการแสดงของสองพี่น้องกับแม่เลี้ยง ที่เอาจริงๆ แค่นี้ก็อึดอัดไม่น่าไว้ใจจะแย่แล้ว ตัวเนื้อหาของหนังมีความซับซ้อน ต้องอาศัยการสังเกตและใช้ความคิดควบคู่กันไป ช่วงต้นเรื่องอาจจะทำความเข้าใจยากอยู่บ้าง แต่เมื่อเล่ามาถึงช่วงท้าย เรื่องราวก็จะคลี่คลายให้หายสงสัยกันได้เอง
1 ในหนังสยองขวัญเกาหลีที่กำเนิดในยุคหนัง Horror Asia กำลังบูมเปรี้ยงปร้างในช่วงนั้น หนังสยองจากฝากเอเชียหลายเรื่องถูกฮอลลีวูดนำไปรีเมคกันยกใหญ่ เรื่องนี้ก็เช่นกัน
หลังจากดูจบก็รู้ทันทีเลยว่าชอบหนังเรื่องนี้อย่างมาก สาเหตุอย่างหนึ่งที่ชอบก็คือ หนังเรื่องนี้ไม่ได้เน้นความเป็นผี ไม่ได้ให้ภูตผีปีศาจเป็นตัวเดินเรื่องไป …หนังที่พูดถึงพี่น้องฝาแฝดที่กลับมาบ้านในสภาวะที่ไม่เหมือนเก่าอีกต่อไป มีความระหองระแหงกับพ่อและแม่เลี้ยงที่คอยกีดกัน
 หนังมาใช้สภาพจิตใจของตัวละคร ความดำมืด ความอาฆาตพยาบาทเครียดแค้นเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งมันได้ผลมาก มันอินไปกับหนังและรู้สึกว่ามันมีอะไรที่น่าติดตามอยู่ตลอดเวลา …ฉะนั้นแล้วมันเลยดูมีเนื้อหาสาระที่ค่อนข้างใหม่ตรงที่ว่า เมื่อความน่ากลัวไม่ได้เกิดจากภูตผีปีศาจ แต่มันเกิดจากจิตใจมนุษย์ด้วยกันเอง ก็สามารถทำให้น่ากลัว น่าหวาดหวั่นได้

รีวิวหนัง A Tale of Two Sisters

หนังมีความน่าติดตามทุกนาทีครับ ดำเนินเรื่องในบ้านกันเสียส่วนใหญ่ แล้วหนังก็กำหนดบรรยากาศภายในบ้านมาด้วยสภาพที่หลอนไม่แพ้กันครับ มีซอกหลืบ บางมุมที่ชวนร้องเสียว ดนตรีกล่อมประสาทแบบเหมาะเจาะไม่ลั่น ไม่เน้นตุ้งแช่แบบฝั่งตะวันตก แล้วมันก็หลอนด้วย กระตุกขวัญแบบเป็นระยะๆ ได้ผลดีมาก
นักแสดงในเรื่องก็ตีบทแตก ทำให้คนดูขวัญผวาไปตามๆ กัน
หนังชวนลุ้นชวนระทึกตั้งแต่ต้นจนจบจริงครับ ถ้าใครติดตามหนังมาแต่ต้น เราขอยินดีด้วยที่อยากจะบอกว่า หนังเรื่องนี้มันมีทีเด็ดชุดใหญ่จนทำให้เราคนดูต้องเซอร์สไพรส์ไปกับมันแน่นอน
เป็นคุณจะรู้สึกอย่างไร ถ้าวันหนึ่งพ่อของคุณพาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาในบ้าน ทั้งๆที่แม่ของคุณยังไม่ได้ล้มหายตายจากไปไหน เธอคนนั้นมีอาชีพเป็นนางพยาบาล ซึ่งควรจะทำงานปรนนิบัติดูแลแม่ของคุณ ไม่ใช่ลอบเข้ามาตีท้ายครัวเยี่ยงนี้ และที่น่าเจ็บแค้นยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองยังมีหน้ามาเปิดเผยความรู้สึกต่อกันอย่างไม่ปิดบังอีกด้วย ราวกับมันเป็นเรื่องธรรมดาสามัญเหลือแสน
สำหรับเด็กสาวผู้กำลังจะย่างเข้าสู่วัยรุ่นอย่าง ซูมี (อิมซูจุง) เธอมีสิทธิทุกประการที่จะตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับ อึนจู (ยวมจุงอา) ดูหนังออนไลน์ ว่าที่แม่เลี้ยงในอนาคต ซึ่งไม่ได้พยายามจะทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายความตึงเครียดลงแต่อย่างใด ด้วยการใช้ไม้แข็งกำราบเด็กหญิงสองคนที่ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเธอ แต่ใครบ้างจะคาดคิดว่า
 คำพูดเชือดเฉือนน้ำใจเพียงไม่กี่คำที่ซูมีกล่าวกับอึนจู ในตอนเช้าของวันที่เกิดเสียงดังโครมครามขึ้นในห้องของน้องสาวคนเล็ก ซูยอน (มุนกุนยอง) จะนำไปสู่ผลลัพธ์ชวนสะพรึงอย่างคาดไม่ถึง… คำพูดที่ซูมีคงไม่มีวันทำใจให้ลืมได้… คำพูดที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล
A Tale of Two Sisters ได้แรงบันดาลใจมาจากตำนานสยองขวัญเลื่องชื่อของประเทศเกาหลีเกี่ยวกับเด็กหญิงสองคนที่ถูกแม่เลี้ยงใจร้ายวางอุบายฆาตกรรมจนถึงแก่ความตาย แต่ความคั่งแค้นในจิตใจทำให้ดวงวิญญาณของพวกเธอไม่อาจเดินทางไปสู่สุขคติได้ หากยังคงวนเวียนอยู่บนโลกเพื่อทวงถามความยุติธรรม
ผู้กำกับ/เขียนบท คิมจีวุน ได้ดัดแปลงตำนานซินเดอเรลล่าฉบับนองเลือดข้างต้นให้ร่วมสมัยและลุ่มลึกขึ้นด้วยการตัดทอนปมฆาตกรรมออก ลดทอนแง่มุมเมโลดราม่าลง (ตัวละครถูกแบ่งแยกเป็นสองกลุ่ม นั่นคือ คนดีกับคนเลว ผู้กระทำกับผู้ถูกกระทำ เพื่อใช้สั่งสอนศีลธรรมขั้นพื้นฐาน) แล้วเพิ่มความซับซ้อนให้แก่ตัวละครหลัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อึนจู ซึ่งห่างไกลจากสถานะปีศาจไร้หัวใจเหมือนแม่เลี้ยงในตำนาน จริงอยู่ที่เธออาจไม่ใช่ แมรี่ ป๊อปปิ้น ผู้รักเด็กทุกคนโดยปราศจากเงื่อนไขเช่นกัน แต่อย่างน้อยหัวใจของเธอก็ไม่ได้สิ้นไร้กลิ่นอายแห่งมนุษยธรรมเสียทีเดียว ดังจะเห็นได้ว่าเธอกำลังตั้งใจจะเดินกลับไปช่วยซูยอนอยู่แล้ว แต่ต้องมาประจันหน้ากับกำแพงหินผาที่เต็มไปด้วยหนามแหลมอย่างซูมีเข้าเสียก่อน ดังนั้น ด้วยอารมณ์คั่งแค้นเพียงชั่ววูบของมนุษย์ผู้อ่อนแอ เธอจึงตัดสินใจแก้เผ็ดเด็กสาวด้วยการ ‘นิ่งเฉย’ เสีย
ทางด้านซูมีเองนั้นก็เป็นตัวละครที่มีความขัดแย้งอยู่ภายในไม่น้อย รายละเอียดอันน่าหวั่นวิตกบางอย่างทำให้สถานะของเธอหาใช่ผ้าขาวบริสุทธิ์ เช่น การที่เธอนึกภาพตัวเอง ‘รับบท’ เป็นอึนจูได้สื่อนัยยะถึงปมอีเล็กทร่า (1) และความต้องการจะเป็นผู้หญิง ‘คนเดียว’ ในชีวิตของพ่อ ขณะเดียวกัน แม้ว่าซูมีจะไม่ได้แสดงท่าทีชิงชังมารดาของตนให้เห็นเด่นชัด แต่หนังก็บอกใบ้อยู่ในทีว่า ซูยอนคือลูกสาวคนที่ใกล้ชิดผูกพันกับแม่มากกว่า ทั้งสองแชร์ความลับเล็กๆน้อยๆซึ่งซูมีไม่เคยรับรู้มาก่อน (คาถาเรียกแม่) หลังเกิดเหตุ ‘สงครามเย็น’ บนโต๊ะอาหาร แม่เลือกจะเดินไปปลอบซูยอน ทั้งต่อมายังตกลงใจลงมือกระทำการบุ่มบ่ามในห้องนอนของลูกสาวคนเล็กอีกด้วย ตรงกันข้าม คนดูกลับไม่มีโอกาสได้เห็นซูมีแสดงปฏิสัมพันธ์กับแม่ของตนเองเลยตลอดทั้งเรื่อง บางทีนั่นอาจเป็นเพราะแม่กับซูยอนล้วนมีบุคลิกเปราะบางคล้ายคลึงกัน ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถเข้าใจพวกเธอได้ดีไปกว่าอีกฝ่าย
ซูมีเป็นตัวละครที่แข็งกร้าว ดื้อรั้น และออกจะมีนิสัยใกล้เคียงกับอึนจูมากกว่าแม่หรือน้องสาว ด้วยเหตุนี้เธอจึงกล้าลุกขึ้นยืนหยัดต่อกรกับแม่เลี้ยงอย่างไม่กลัวเกรง กระนั้นก็ตาม การที่เธอเล่นละครหลอกตัวเองโดยรับบทเป็นทั้ง ‘ผู้พิทักษ์’ และ ‘คนทรมาน’ ซูยอนในเวลาเดียวกันก็บ่งชี้ถึงความรู้สึกขัดแย้งภายในจิตใต้สำนึกอยู่กลายๆ เหมือนเธอกำลังยืนอยู่กึ่งกลางสมรภูมิรบโดยไม่รู้ว่าควรจะเข้าพวกกับฝ่ายไหนดี กล่าวคือ ใจหนึ่งเธอรักและสงสารน้องสาวอย่างแท้จริง แต่อีกใจหนึ่งก็หงุดหงิดที่เห็นน้องสาวปล่อยตัวเองตกสู่ภาวะจำยอมโดยไม่คิดจะลุกขึ้นสู้ ดูหนัง จนเมื่อความอึดอัดคับข้องใจเริ่มทับถมมากเข้า สุดท้ายมันจึงไหลทะลักออกมา ในฉากที่ซูมีคาดคั้นความจริงจากซูยอนว่าใครเป็นคนทำร้ายเธอ
ด้านมืดที่เจือจางในกรณีของอึนจูกับผ้าขาวที่เปื้อนสีในกรณีของซูมี ทำให้หนังของคิมจีวุนค่อนข้างลุ่มลึกในแง่ของการสร้างตัวละครและบทวิเคราะห์สภาพทางจิต ต่างจากกลวิธีกระตุกขวัญของเขา ซึ่งนอกจากจะไม่มีอะไรแปลกใหม่แล้ว (นับแต่ The Ring กับขบวนหนังเลียนแบบอีกหลายสิบเรื่อง ภาพผู้หญิงผมยาวปรกหน้าคืบคลานไปมาก็แทบจะเรียกได้ว่าเป็นฉากบังคับในหนังสยองของเอเชียเลยทีเดียว) หลายครั้งยังนิยมช็อคผู้ชมให้สะดุ้งตกใจอย่างตรงไปตรงมาด้วยภาพและเสียง (ดังสนั่น) เป็นระยะๆอีกด้วย โดยส่วนใหญ่แม้จะได้ผลบ้างตามสมควร แต่มันก็เป็นเพียงแค่อารมณ์ผิวเผิน เปลือกนอกเท่านั้น
โดยภาพรวมแล้ว หนังกลับประสบความสำเร็จมากกว่าในแนวทางดราม่าเกี่ยวกับภาพสะท้อนของวิกฤติครอบครัวและผลกระทบที่คนตายมีต่อคนเป็น ดังจะเห็นได้จากฉากย้อนอดีตในช่วงท้าย ซึ่งแม้โดยพื้นฐานทางโครงเรื่องแล้วจะมีขึ้นเพื่ออธิบายอาถรรพ์ ‘ตู้ซ่อนผี’ เป็นหลัก แต่พลังอันเด่นชัด เข้มข้น และท้ายที่สุด สามารถสร้างความอิ่มเอมทางอารมณ์ได้บาดลึกกว่า อยู่ตรงที่มันยังช่วยแจกแจงถึงสาเหตุแห่งอาการบุคลิกภาพแปลกแยกในตัวซูมีอีกด้วย และพร้อมกันนั้นก็ทำให้เธอก้าวเข้าใกล้สถานะ tragic hero (2) มากยิ่งขึ้น
ความสะเทือนใจหลักในฉากดังกล่าว หาได้เกิดจากภาพจุดจบอันน่ารันทดของซูยอนไม่ แต่เป็นการที่คนดูล้วนตระหนักดีถึงชะตากรรมที่เฝ้ารอซูมีอยู่เบื้องหน้าต่างหาก นับแต่เธอก้าวเท้าออกจากบ้านอย่างหุนหันในเช้าวันนั้นหลังเปิดฉากปะทะคารมกับอึนจู ซึ่งเปรียบได้กับการตัดสินใจผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ที่กำลังจะทำให้เธอและคนใกล้ตัวต้องพบจุดจบอันน่าเศร้า
คำพูดจี้ใจดำเพียงไม่กี่คำกลายเป็นตราบาปหนักอึ้งซึ่งเธอต้องแบกรับไปตลอดชีวิต (ฉากการเล่นละครตีถุงตุ๊กตาในช่วงท้ายบ่งบอกความหมายว่า ซูมีไม่เพียงจะโทษอึนจูต่อการตายของน้องสาวเท่านั้น หากแต่ยังโทษว่าส่วนหนึ่งมันเป็นความผิดของเธอเองอีกด้วย… ที่มาช่วยไม่ทัน…
ที่โหมกระตุ้นไฟแค้นในใจแม่เลี้ยง) บุคลิกภายนอกของซูมีอาจแข็งกร้าว ไม่กลัวเกรง รวมทั้งดูจะเป็นผู้นำมากกว่าผู้ตาม แต่บทเฉลยในตอนท้ายได้เปิดโปงข้อเท็จจริงที่แท้ว่า สุดท้ายเธอยังคงตกเป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ดี เธอคือเหยื่อของชะตากรรม จิตที่ยึดมั่น และความทรงจำที่ตามหลอกหลอนเหมือนผีร้าย… ผีซึ่งปรากฏตัวให้เห็นเป็นรูปธรรมเพียงไม่กี่ครั้ง (แต่ส่วนใหญ่ตัวละครกลับ ‘ตระหนัก’ ถึงการดำรงอยู่ของมัน แม้จะมองไม่เห็นก็ตาม) ไม่แสดงตัวตนเด่นชัดว่าเป็นใครกันแน่ และไม่ได้สำแดงอำนาจในการชำระแค้นใดๆ หากแต่ทำหน้าที่เป็นดังตัวแทนของความรู้สึกผิดบาป หรืออดีตซึ่งตามมาหลอกหลอนคนเป็นเสียมากกว่า
สิ่งหนึ่งซึ่งหนังพยายามจะสื่อสารถึงผู้ชม ก็คือ ไม่มีใครสามารถทำร้ายมนุษย์ให้เจ็บปวดได้มากไปกว่าตัวเราเอง และภูตผีปีศาจตนใดก็ไม่น่าหวาดกลัวเท่าความทรงจำอันเจ็บปวดที่เราอยากจะลืม เพราะไม่ว่าจะทำอย่างไร เราก็ไม่อาจขับไล่มันให้สูญสลายไปได้
ซูมีตระหนักถึงสัจธรรมข้างต้นดียิ่งกว่าใครๆ หลังจากถูกวิญญาณแห่งอดีต ตลอดจนความรู้สึกผิดบาป ตามรังควานแบบไม่เลิกราทั้งในรูปของอาการแปลกแยกทางบุคลิกภาพ ซึ่งพัฒนาขึ้นมาเพื่อปฏิเสธความเป็นจริง วิญญาณและฝันร้าย หรือแม้กระทั่งอึนจูเองก็ไม่วายถูก ‘ผีในตู้’ โผล่ออกมาหลอกหลอนเช่นกัน
คนเดียวที่ดูเหมือนจะไม่รู้สึกรู้สมใดๆกับเรื่องราวทั้งหมดก็คือ มูฮุน (คิมคับซู) พ่อของซูมีและสามีของอึนจู แรกเริ่มเดิมที คนดูอาจรู้สึกสงสารเขาที่ต้องรับมือกับความ ‘สับสน’ ของซูมี แต่หากมองให้ลึกถึงบ่อเกิดแห่งปัญหาแล้ว เขาผู้นี้มิใช่หรือที่เป็นต้นเหตุแห่งความวุ่นวายทั้งหมด?
 ถ้าเขาหนักแน่น มั่นคง อึนจูก็คงไม่มีโอกาสเลื่อนฐานะจากพยาบาลมาเป็นแม่เลี้ยงได้ ถ้าเขาคำนึงถึงความรู้สึกของลูกทั้งสองคนกับเมียเหนืออื่นใด สัมพันธ์ชู้สาวกับอึนจูก็ควรจะถูกปกปิดเอาไว้ให้มิดชิด ไม่ใช่เปิดกระจ่างให้ทุกคนรับทราบโดยทั่วกันเช่นนี้ และที่สำคัญ หลังจากโศกนาฏกรรมอันเนื่องมาจากความมักง่ายของเขา มูฮุนกลับเป็นคนเดียวที่ทำใจได้โดยปราศจาก ‘ผลตกค้าง’ อย่างสิ้นเชิง เขายังคงดำเนินชีวิตเหมือนเช่นปรกติ โดยไม่เคยสังเกตเห็น ‘ผี’ และมืดบอดต่อความไม่ชอบมาพากลทั้งหลายทั้งปวง
หลายทศวรรษผ่านไป สุดท้ายผู้หญิงก็ยังคงตกเป็น ‘เหยื่อ’ ตลอดกาลในหนังสยองขวัญ ถึงแม้ภัยร้ายในครั้งนี้จะเกิดขึ้นจากภายในมากกว่าปัจจัยภายนอกก็ตาม ส่วนไอ้ตัวร้าย (ผู้ชาย) ดูเหมือนจะนอนหลับสบาย…เช่นเคย
This entry was posted in รวมบทความ, แนวสยอง and tagged netflix download, netflix login, netflix ดูฟรี, netflix ฟรี, netflix ราคา, netflix รายเดือน, netflix สมัคร, ดู netflix พากย์ไทย, ดู netflix ฟรี, ดู netflix ในคอม, ดู netflix ในทีวี samsung, ดู netflix ในทีวีไม่ได้, ดู netflix ไม่ได้, ดูหนัง, ดูหนังผี, ดูหนังผีฟรี, ดูหนังฟรี, ดูหนังระทึกขวัญฟรี, ดูหนังออนไลน์, รีวิว netflix, รีวิว netflix 99 บาท, รีวิว netflix pantip, รีวิว netflix twitter, รีวิวการ์ตูน netflix, รีวิวหนัง, รีวิวหนังน่ากลัว, รีวิวหนังผี, รีวิวหนังผี netflix, รีวิวหนังระทึกขวัญ, รีวิวหนังสยองขวัญ, สปอยหนัง, สปอยหนังผี, สปอยหนังระทึกขวัญ, สปอยหนังสยองขวัญ, หนังน่ากลัว, เว็บดูหนังผี, เว็บดูหนังผีฟรี, เว็บดูหนังฟรี, เว็บดูหนังสยองขวัญฟรี, เว็บดูหนังออนไลน์, เว็บดูหนังไม่มีโฆษณา.
[email protected]

รีวิวหนังผี Last Shift
รีวิวหนัง Gonjiam: Haunted Asylum
กุมภาพันธ์ 2023
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728  
« ส.ค.    
รีวิวหนังล่าสุด
  • 31
    ส.ค.
    รีวิว Mother/Android กองทัพแอนดรอยด์กบฏโลก
  • 31
    ส.ค.
    รีวิว Texas Chainsaw Massacre สิงหาสับ
  • 02
    ส.ค.
    รีวิว The Grudge บ้านผีดุ
  • 26
    ก.ค.
    รีวิว Doctor Sleep ลางนรก
  • 26
    ก.ค.
    รีวิว Bulbbul ตำนานเรื่องเล่าเจ้าสาววัยเด็กผ่านเทพนิยาย
  • 30
    มิ.ย.
    รีวิว Blood Red Sky ฟ้าสีเลือด
  • 30
    มิ.ย.
    รีวิว Kingdom: Ashin of the North
  • 29
    มิ.ย.
    รีวิว Ghostbusters โกสต์บัสเตอร์
  • 29
    มิ.ย.
    รีวิวหนัง เรื่อง ผี เล่า Haunted Tales
  • 28
    มิ.ย.
    รีวิวหนัง Candyman

netflix download netflix login netflix ดูฟรี netflix พากย์ไทย netflix ฟรี netflix ราคา netflix รายเดือน netflix สมัคร ดู netflix ดู netflix พากย์ไทย ดู netflix ฟรี ดู netflix ในคอม ดู netflix ในทีวี ดู netflix ในทีวี samsung ดู netflix ในทีวีไม่ได้ ดู netflix ไม่ได้ ดูหนัง ดูหนังผี ดูหนังผีฟรี ดูหนังฟรี ดูหนังระทึกขวัญฟรี ดูหนังออนไลน์ รีวิว netflix รีวิว netflix 99 บาท รีวิว Netflix and tagged netflix apk รีวิว netflix pantip รีวิว netflix twitter รีวิวการ์ตูน netflix รีวิวหนัง รีวิวหนังน่ากลัว รีวิวหนังผี รีวิวหนังผี netflix รีวิวหนังระทึกขวัญ รีวิวหนังสยองขวัญ สปอยหนัง สปอยหนังผี สปอยหนังระทึกขวัญ สปอยหนังสยองขวัญ หนังน่ากลัว เว็บดูหนังผี เว็บดูหนังผีฟรี เว็บดูหนังฟรี เว็บดูหนังสยองขวัญฟรี เว็บดูหนังออนไลน์ เว็บดูหนังไม่มีโฆษณา

หมวดหมู่รีวิว
  • รวมบทความ
  • แนวระทึกขวัญ
  • แนวลึกลับ
  • แนวสยอง
รีวิวหนังผีแนะนำ
  • รีวิว Mother/Android กองทัพแอนดรอยด์กบฏโลก
  • รีวิว Texas Chainsaw Massacre สิงหาสับ
  • รีวิว The Grudge บ้านผีดุ
  • รีวิว Doctor Sleep ลางนรก
  • รีวิว Bulbbul ตำนานเรื่องเล่าเจ้าสาววัยเด็กผ่านเทพนิยาย
  • หน้าแรก
  • แนวสยองขวัญ
  • แนวหนังลึกลับ
  • แนวระทึกขวัญ
  • ดูหนังออนไลน์
  • หน้าแรก
  • แนวสยองขวัญ
  • แนวหนังลึกลับ
  • แนวระทึกขวัญ
  • ดูหนังออนไลน์
  • WooCommerce not Found
  • เว็บรีวิวหนัง รีวิวซีรีส์ รีวิวการ์ตูน และข้อมูลข่าวสารหนัง สปอยหนัง ทุกเรื่องทุกแนว สามารถหารับชมได้ที่ เว็บนี้เว็บเดียว