รีวิว หมอหลวง ละครไทย สนุกเรียกเสียงหัวเราะ มาพบดูหนังออนไลน์กับละครไทยเรื่อง หมอหลวง หรือ Royal Doctor ที่ตอนนี้สามารถหาดูได้ในทาง netflix กันได้แล้ว เรื่องราวของการเดินทางข้ามมิติมายังช่วงเวลาในอดีตของ บัว พัดพาทำให้พบเจอกับ ทองอ้น ที่มาช่วยชีวิตเธอหลังถูกทำร้ายโดยบังเอิญ กลายเป็นจุดเริ่มต้นการเจอกันของนักเรียนแพทย์ยุคปัจจุปันและนักเรียนแพทย์หมอหลวงความวุ่นวายจึงเกิดขึ้น เป็นการกลับมาเจอกันอีกครั้งของ มาริโอ้ เมาเร่อ และ คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส หลายคนเห็นหน้านักแสดงนำอาจเข้าใจผิดคิดว่า หมอหลวง เป็นละครภาคต่อของ ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง แต่ว่าไม่ใช่ภาคสอง ไม่ใช่ภาคต่อ และไม่เกี่ยวเนื่องกัน เพียงแต่ตัวละครนำคู่เดียวกัน แต่ไม่ติดตลกเท่าเรื่องนั้น และมีพล็อตแนวพีเรียดแพทย์แผนโบราณโทนเดียวกันเท่านั้น เรื่องราวของเรื่องนี้จะสนุกและได้ความรู้อะไรบ้างอย่าลืมไปติดตามชมกันนะ
ข้อมูลทั่วไป หมอหลวง หนังไทยสนุกๆ ไม่อยากให้พลาด
รีวิว หมอหลวง ละครไทย สนุกเรียกเสียงหัวเราะ หมอหลวง เรื่องย่อละครช่อง 3 เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อวงล้อกาลเวลาหมุนวนพัดพา บัว นักเรียนหมอในยุค 5G ข้ามมิติมาพบกับ ทองอ้นหมอหลวง นักเรียนหมอในยุคสมัยรัชกาลที่ 3 แกะดำของตระกูลหมอหลวง ทั้งคู่ต้องมาร่วมทุกข์ร่วมสุข เจอทั้งความอลหม่านในโรงเรียนแพทย์ ความเป็นความตาย สงครามโรคภัย พร้อมกับความรักข้ามภพที่ทำให้ บัว ต้องเลือก เรื่องราวจะลงเอยเช่นไร ติดตามชมได้ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 21 มีนาคม 2566
ละครแนวโรแมนติกแฟนตาซีข้ามเวลาที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน กระแสตอบรับดีวันดีคืนอย่าง หมอหลวง ทางช่อง 3 เป็นซีรีส์อีกเรื่องที่ตกคนดูให้ติดหนึบกับการเล่าเรื่องที่น่าติดตาม ว่าด้วยเรื่องราวการแพทย์แผนไทยที่น่าสนใจและเข้มข้น เปิดตัวตอนแรกทำเรตติ้งคนดูในกทม.สูงถึง 6.01 เรตติ้งทั่วประเทศ 3.2 เป็นตัวเลขเรตติ้งที่มาแบบทรงดีตั้งแต่เริ่ม และเรตติ้งเพิ่มสูงทุกตอนต่อเนื่อง จนล่าสุดอยู่ที่ 4.2 ใน EP.5 แล้ว
เรื่องย่อ
บัว อัคริมา (รับบทโดย คิมเบอร์ลี่หมอหลวง) นักศึกษาแพทย์ถูกพายุหอบทะลุมิติมายังอดีต และวันแรกของการทะลุมิติเธอก็ซวยซ้ำด้วยการเจอเข้ากับโจรตั้วเหี้ย (อั้งยี่) ที่บุกปล้นหมู่บ้านและถูกฟันเข้าที่แผ่นหลัง แต่โชคยังดีที่ถูกทองอ้น (รับบทโดย มาริโอ้) บุตรชายไม่เอาไหนที่ตามพ่อหมอหลวงทองคำช่วยไว้ ก่อนที่จะพาเธอมารักษาต่อที่บ้าน บัวจึงได้เจอกับ ผาด
และ ครูหาญ สองบุคคลที่หน้าเหมือนเพื่อนและครูของเธอในยุคปัจจุบันอีกครั้ง และพวกเขาที่บาดเจ็บทั้งหมดก็ได้ถูกหมอหลวงทองคำและทองแท้บุตรชายคนโตของหมอหลวงทองคำช่วยไว้ ทั้งหมดจึงพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านหมอหลวงทองคำ ขณะที่บัวก็รู้แล้วว่ายุคที่เธอทะลุมิติมาคือยุค ร.3 ที่มีทั้งหมดหมอบรัดเลย์ ประวัติ และเป็นยุคที่แพทย์แผนไทยเฟื่องฟูที่สุด! ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป สามารถติดตามได้ทางช่อง 3
นักแสดงนำใน หมอหลวง
มาริโอ้ เมาเร่อ รับบท ทองอ้น
คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส รับบท บัว/อัคริมา
มาสุ จรรยางค์ดีกุล รับบท ทองแท้
ศิริลักษณ์ คอง รับบท คุณแม้นวาด
ทัศน์พล วิวิธวรรธ์ รับบท พระองค์เจ้าพันพิชากร
ณปภา ตันตระกูล รับบท ผาด/แพท
ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ รับบท หลวงชำนาญเวช (ทองคำ)
จริยา แอนโฟเน รับบท แม่เทียบ
มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ รับบท แม่พิกุล
สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ รับบท หม่อมต่วน
ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์ รับบท เจิด/ทรัพย์
นรภัทร นาคะดำรงชัย รับบท ทองอิน
ธนาธิป พงษ์สุพรรณ รับบท เณรน้อย
ภาณุเดช วัฒนสุชาติ รับบท พระยาบำเรอราช
ณคุณ โรจนัย รับบท ยศ
จักริน ภูริพัฒน์ รับบท พุ่ม
วิศรุต หิรัญบุศย์ รับบท บุญ
วัชรชัย สุนทรศิริ รับบท ครูหาญ
จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม รับบท เนียง
ชาลี ศรีเจริญ รับบท น้าเทิ้ม
กษาปณ์ จำปาดิบ รับบท หมอทัด
ภูศญา นาคสวัสดิ์ รับบท บ่าวเผือก
คมสัน ทินกร ณ อยุธยา รับบท หมอคม
สุภเดช วงศ์วัฒนาพันธุ์ รับบท หมอเปรื่อง
ก้องหล้า กาญจนโหติ รับบท หมอนพ
เทพธนะ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา รับบท หมอชิด
เลอวิทย์ สังข์สิทธิ์ รับบท หมอจัน
ศรชัย ฉัตรวิริยะชัย รับบท หมอตาบอด
บทวิเคราะห์
รีวิว หมอหลวง ละครไทย สนุกเรียกเสียงหัวเราะ ละครย้อนยุค แนววงการแพทย์ แพทย์แผนไทยประยุกต์ หมอหลวงที่รักษาเชื้อพระวงศ์ เรื่องราวของ บัว นางเอกที่ทะลุมิติไปยังยุค ร.3 ที่การแพทย์แผนไทยกำลังเฟื่องฟู และประสบเหตุถูกโจรทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส นางเอกได้ถูกทองอ้น พระเอกที่ตามพ่อมาเก็บสมุนไพรเพื่อไปรักษาโรคหอบหืดของพระองค์ชายช่วยไว้
พระเอกรักษาแผลที่หลังของนางเอกอย่างเชี่ยวชาญทำให้รู้ว่าที่ผ่านมาพระเอกแค่แสร้งเป็นคนไม่เอาไหน ไม่ยอมเรียนวิชาหมอแม้ว่าตระกูลจะเป็นหมอหลวง พระเอกบอกว่าทั้งตระกูลมีพี่ชายรับช่วงต่อเป็นหมอหลวงก็พอแล้ว ทั้งตระกูลจะมีหมอทำไมตั้งเยอะแยะ ตนขออยู่อย่างสบายก็พอแล้ว เพราะพระเอกเป็นลูกภรรยารองของหมอหลวงทองคำ จึงไม่คิดแข่งขันกับพี่ชายเพราะกลัวพี่จะโกรธ
ซึ่งแม่พี่ชายซึ่งเป็นภรรยาหลวงก็ไม่อยากให้พระเอกเรียนหมอจริง ๆ แต่จริง ๆ แล้วพี่ชายพระเอกเป็นคนดีมาก อยากให้น้องชายเรียนหมอจะได้ช่วยรักษาคน และพ่อก็สนับสนุนด้วย พ่อหมอหลวงทองคำบังคับให้พระเอกไปสมัครสอบเรียนหมอที่กำลังเปิดรับสมัคร
ซึ่งตอนนี้บัวก็ได้เข้ามารักษาตัวที่บ้านพระเอกแล้วและได้เจอกับผาดและครูหาญที่ถูกทองแท้พามารักษาตัวที่บ้านเช่นกัน ทั้งหมดถูกหมอบ้านตระกูลทองคำดูแลเป็นอย่างดี ทั้งยังให้พักที่เรือนใหม่ที่จะใช้แต่งเมียของทองแท้ด้วย ซึ่งช่วงนี้ก็เป็นช่วงขยับความสัมพันธ์ของพระนาง ทองอ้นหมอหลวงจอมกะล่อนกับบัวที่ถูกคนที่นี่มองว่าเป็นคนบ้าเพราะชอบพูดจาด้วยภาษาแปลก ๆ ก็ดูจะเข้ากันได้เป็นอย่างดี
เมื่อบัวตัดสินใจได้แล้วว่าจะใช้ชีวิตที่นี่อย่างเป็นประโยชน์จึงคิดที่จะเรียนแพทย์ต่อและเริ่มศึกษาสมุนไพร จึงได้ขอหนังสือจากทองแท้มาอ่าน แต่ทองอ้นกลับไม่ยอมให้หนังสือง่าย ๆ เพราะเป็นความรู้ของตระกูล แต่เมื่อเห็นว่าบัวรู้ภาษาอังกฤษเมื่อเธอคุยกับหมอบรัดเลย์และเป็นล่ามแปลให้กับคนไข้ของหมอ ทองอ้นเลยขอให้บัวสอนภาษาอังกฤษเพื่อแลกกับหนังสือวิชาแพทย์ บัวจึงได้สอนภาษาอังกฤษกับทองอ้น ซึ่งฉากนี้เป็นอะไรที่น่ารักมากเลย
พูดถึงการสอบคัดเลือกนักเรียนหมอ บรรดาครูหมอก็ออกบททดสอบสุดหิน โดยแสร้งทำเป็นขอทานติดโรคเดินเข้ามาพาลให้ผู้คนรังเกียจ ซึ่งมีแต่ทองอ้นที่แสดงความเป็นห่วงและสอบถามอาการ ก่อนจะตำหนิเมื่อเห็นว่าเป็นการแกล้งป่วย ทำให้ทองอ้นสอบผ่านคนเดียว สร้างความไม่พอใจให้บรรดาลูกหมอที่มาเข้าสอบ จึงเกิดการแฉกันขึ้นต่อหน้าครูหมอบอกว่าทองอ้นคือบุตรเสเพลของหมอหลวงทองคำที่ทำให้ตระกูลเสียชื่อ
ทำให้ทองอ้นไม่พอใจเกิดชกต่อยกันขึ้น จนไม่รู้ว่าสุดท้ายเข้าจะได้เป็นหมอรึเปล่า และเพราะมีคนสอบผ่านน้อยเกินไป บรรดาครูหมอจึงรับสมัครสอบอีกครั้งและตั้งโจทย์ เพื่อให้คนสอบได้มีโอกาสซักถาม ทำให้ทุกคนสอบผ่านเข้าเรียนหมอได้ทั้งหมด ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ต้องติดตามกัน
เคมีพระนางดีงามมากทุกคน ความกวนของพระเอกปะทะความช่างแซวของนางเอก หรือความขี้อวดของพระเอกปะทะความขี้แซะของนางเอก คู่นี้คือเต็มไปด้วยสีสันจริง ๆ แถมมีหลายครั้งที่เข้ากันอย่างเป็นปี่เป็นขลุย ดูแล้วชวนอมยิ้มสุด ๆ บรรยากาศคู่นี้คือเป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งคนรักได้เลย
อีกคู่ที่ชอบมากในเรื่องคือคู่เด็ก ๆ อย่างเณรกับลูกชายของทองแท้ค่ะ เวลาเด็ก ๆ คู่นี้คุยกันเป็นอะไรที่น่ารักมาก เณรก็ช่างสอนขณะที่ลูกชายทองแท้ก็ชอบชวนเณรออกไปเล่นเถลไถล เป็นคู่ที่สร้างสีสันให้เรื่องราวสนุกยิ่งขึ้นเลยค่ะ เด็ก ๆ น่ารักมากจริง ๆ ต้องไปดูเลยน้า
จุดเด่นและจุดสังเกต
เป็นการใช้ตัวซ้ำที่ไม่ทำให้เกิดรอยช้ำ ทั้งกับตัวละครและความรู้สึกคนดู บวกกับการผูกจักรวาลที่ปล่อยจุดเชื่อมโยงให้คนดูได้คิดและเดาแผนภูมิครอบครัวกันเองเอง ก็สร้างความตื่นเต้นได้อีกแบบ ให้คะแนน 3 ตอนเท่านี้ก่อน และแน่นอนว่าเราจะพบกับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของละครไทยเรื่องนี้และเรตติ้งที่เพิ่มขึ้นแหง ๆ
ถ้าเนื้อหาถัดจาก 3 ตอนนี้เป็นอะไรที่ร้องว้าวสมกับชื่อหมอหลวง ยังมีบางบท บางคาแร็กเตอร์ของตัวแสดงบางตัว ที่ขัดความรู้สึก และมีอินเนอร์ที่ดูไม่เป็นธรรมชาติอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าเมื่อชั่วโมงบินมากขึ้น การแสดงจะพัฒนามากกว่านี้แน่นอน เป็นกำลังใจให้
โดยสรุปเรื่อง หมอหลวง
ตั้งแต่ครั้งทองเอกหมอท่าโฉลงมาแล้วที่นอกจากสร้างความฮาให้คนดูแล้วยังเสริมความรู้ให้คนดูอีกด้วย จนทำให้การแพทย์แผนไทยเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง และครั้งนี้ก็ทำท่าว่าเส้นเรื่องจะเป็นการเปิดเผยให้เห็นการเรียนการสอนเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทยเป็นแน่แท้ คาดหวังค่ะว่าบทจะเขียนให้เราได้เห็นอะไรไรแบบนั้น
ซึ่งจาก 3 ตอนที่ผ่านมา เราก็ได้เห็นถึงการรักษาที่ละเอียดอ่อนแบบฉบับหมอหลวงกันมาแล้ว และด้วย คาแรกเตอร์ของตัวละครและเส้นเรื่องที่วางเอาไว้ว่า พระ-นาง ต่างก็เป็นนักเรียนหมอที่มีความมุ่งมั่นกันทั้งคู่ แต่มักจะถูกมองว่าเป็นแกะดำ และถึงจะเกิดกันในคนละยุคคนละสมัยแต่สันดานก็ยังเป็นหมออยู่วันยังค่ำ ก็ทำให้บทละครของเรื่องนี้มีสีสันขึ้นอีกเป็นกอง
เพราะเท่ากับเป็นการคอแลปส์กันของหมอสองยุคก็ว่าได้ บวกกับพล็อตเรื่องที่วางเอาไว้ว่า บัวเริ่มปรับตัวที่จะหายใจอยู่ในยุคอดีตได้ แถมยังใฝ่หาความรู้ สนใจในตำรายาและการรักษาโรคในยุคอดีตอีกด้วย สองคนกับทองอ้นจะพบเจอกับอุปสรรคที่ดาหน้าเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทั้งความเป็นความตาย ทั้งสงครามโรคภัยที่เกิดขึ้นในสมัยนั้น พร้อมกับความรักข้ามภพที่ยังเดาไม่ได้ว่า พระนางจะลงเอยกันอีท่าไหน แต่เชื่อขนมกินได้เลยว่า ต้องเป็นการจบแบบสุขนิยมแน่นอน
เพราะแนวทางละครมันมาอย่างนั้นแล้วนี่จ๊ะ และถ้าพูดในเรื่องของการแสดงก็ไม่มีอะไรน่าห่วงกับทีมงานชุดนี้ ถึงแม้ว่าจะยังมีบางบทบาทที่การแสดงยังดูขัดหูขัดตาอยู่บ้าง ด้วยชั่วโมงบินที่อาจจะยังน้อยกว่าตัวตึงคนอื่น ๆ แต่ความเชี่ยวของพระนางและทีมงานท่าโฉลง ก็ไม่ได้ทำให้ส่วนนั้นมาดึงอรรถรสให้ลดน้อยลงไปเลย แถมยังสามารถทำให้เราเห็นอีกด้วยว่า ถึงแม้ทีมนักแสดงหลัก 4 คน จะเป็นนักแสดงชุดเดิมจากท่าโฉลง คือพระ-นาง และเพื่อนซื้ออย่างผาดและเจิด
แต่ก็ไม่ได้ทำให้ละครเกิดรอยช้ำ และไม่ได้ซ้ำความรู้สึกของคนดูแต่อยางใด จุดนี้ ถือเป็นการประสบความสำเร็จของทีมผู้จัดได้เลย ที่ใช้มุกตัวซ้ำแต่ไม่มีช้ำมากวักมือเรียกคนดู ฉลาดมาก ซึ่งตอนนี้ได้เสิร์ฟความฮามาแล้ว 3 ตอนด้วยกัน แฟน ๆ ละครหมอหลวง สามารถชมสดได้ทาง ช่อง 3 กด 33 ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. หรือรับชมย้อนหลังได้ทาง netflix original คลิกที่ภาพแล้วไปยิ้มแก้มแตกกันได้เลย