รีวิว แสงกระสือ ภาพยนตร์ไทย สุดน่ากลัว ดูหนังออนไลน์มาพบกับหนังผีไทยกันหน่อยอย่างเรื่องนี้ แสงกระสือ เป็นหารหยิบเรื่องราวของตำนานผีกระสือมาเรียบเรียงใหม่ ว่าด้วยเรื่องราวของ สาย หญิงสาวผู้ใฝ่ฝันจะเป็นพยาบาล แต่ได้เกิดเหตุการณ์บางอย่างทำให้กลายเป็นผีกระสือ สร้างความหวาดกลัวแก่คนในหมู่บ้าน ขณะที่ น้อย กับ เจิด เพื่อนของเธอก็ได้ตกหลุมรักเธอพร้อม ๆ กัน ศึกหัวใจมีได้คนเดียว แต่ศึกภายนอกกับการตามล่ากระสือเองก็เช่นกัน งานนี้ สาย ต้องหนีเอาตัวรอดให้ได้และต้องเลือกรักแท้เพียงหนึ่งเดียว เรื่องราวตอนจบจะเป็นยังไงกันติดตามได้ในแสงกระสือนี้เลยดูหนังออนไลน์ฟรี 2022 อีกมากมายได้เลย
จุดเริ่มต้นของ แสงกระสือ หนังผีไทย ออนไลน์
รีวิว แสงกระสือ ภาพยนตร์ไทย สุดน่ากลัว แสงกระสือ ฉายปี พ.ศ. 2562 ภาพยนตร์ไทยน่าดูแนวแฟนตาซี โรแมนติก ดราม่า สยองขวัญ สะเทือนอารมณ์ กำกับโดย สิทธิศิริ มงคลศิริ และมือเขียนบทชั้นยอด ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล สร้างสรรค์โดย ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม
จำ จูบแรก ของคุณได้ไหม? เด็กสาวแรกรุ่นในหมู่บ้านอันห่างไกล ค้นพบว่าแท้จริงแล้วเธอไม่ใช่มนุษย์เหมือนคนอื่น แต่สืบเชื้อสายมาจากเผ่าพันธุ์เก่าแก่ในตำนานที่ถ่ายทอดกันผ่านทางน้ำลาย มีเพียงเด็กหนุ่มคนเดียวในหมู่บ้านที่รู้ความจริง
และพยายามปกป้องเธอจากการไล่ล่าของชาวบ้านที่หวาดกลัวผีกระสือ ความใกล้ชิดของทั้งสองเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นความรัก ขณะที่อสูรกายอีกสายพันธุ์หนึ่งก็ต้องการหัวใจของเธอเพื่อความเป็นอมตะ หนทางที่เธอจะอยู่รอดคือหนีออกจากหมู่บ้าน หรือการเผชิญหน้ากับศัตรูที่ตามล่า แล้วเขาจะปกป้องเธอได้หรือไม่
เรื่องย่อแสงกระสือ
เรื่องราวของหญิงสาวที่ชื่อว่า สาย ผู้ช่วยพยาบาลประจำอนามัยชุมชน วันหนึ่งเธอรู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติกับเธอ เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับกระแสข่าวลือในหมู่บ้านที่ว่า มีแสงหนึ่งลอยไปลอยมา แล้วก็มีซากสัตว์ตายเกลื่อนกลาด ชาวบ้านต่างร่ำลือกันว่าแสงที่เห็นนั้นคือแสงกระสือเต็มเรื่อง
แล้ววันหนึ่งสายก็รู้ว่าเธอนั้นเองคือกระสือ ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปในวัยเด็ก สายกับเพื่อนอีกสัก 3 คนได้เข้าไปเล่นในบ้านร้างแห่งหนึ่งเพื่อทดสอบความกล้าหาญบางอย่างแบบเด็ก ๆ ด้วยการเล่นซ่อนหา แต่แล้วสายก็ถูกบางสิ่งเข้าจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วเธอก็ได้รับเชื้อกระสือผ่านทางน้ำลายตั้งแต่ครั้งนั้น
สายโตขึ้นใช้ชีวิตแบบปกติ เธอมีเพื่อนชายที่สนิทสนมกันตั้งแต่วัยเด็กคือ เจิด ที่คอยดูแลเธอจนถึงปัจจุบัน และ น้อย ชายที่เธอให้ความรู้สึกดีมากกว่าเพื่อน ทั้ง 3 คนมีความสัมพันธ์แบบรักสามเศร้าที่เก็บงำไว้ในใจไม่อาจอธิบายได้
สายปิดบังเรื่องที่เธอเป็นกระสือไม่ให้ใครรู้ แม้จะมีการไล่ล่ากระสือของชาวบ้านอย่างหนักหน่วงในทุกค่ำคืนก็ตาม กระทั่งวันหนึ่ง น้อยเดินทางกลับมายังบ้าน และในคืนหนึ่งที่น้อยกำลังหาปลาอยู่นั้น เขาได้เห็นแสงของกระสือลอยไปลอยมาจึงวิ่งตามไป แล้วแสงกระสือนั้นก็ลอยเข้าไปในบ้านของสาย น้อยจึงได้เห็นว่าสายเป็นกระสือนั่นเอง
แต่น้อยก็ไม่ได้เกรงกลัวสายแต่อย่างใด แถมยังแอบช่วยสายโดยหาของสดให้สายกิน เพื่อที่จะไม่ต้องออกไปล่องลอยหาอาหารให้ชาวบ้านไล่ล่า อีกทั้งยังช่วยสายหาว่านวิเศษชนิดหนึ่งที่เรียกว่าว่านกระสือ เพื่อใช้ระงับไม่ให้สายต้องกลายเป็นกระสือ กรสือก็หายออกไปจากชุมชน จนชาวบ้านรู้สึกผิดสังเกตว่าเพราะเหตุใดกระสือที่เคยอาละวาดนั้นถึงหายไปนับเดือน แต่อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านก็สามารถรู้จนได้ว่าสายคือกระสือ น้อยจึงทำหน้าที่ปกป้องสายจากการไล่ล่าของชาวบ้าน
ระหว่างนั้นน้อยที่เป็นมนุษย์เต็มตัวกับสายที่เป็นมนุษย์ครึ่งกระสือก็เกิดความรักกัน อันเป็นความรักต้องห้าม เป็นความรักที่ทั้งสองคนไม่อาจสมหวัง
จากนั้นก็มีหมอผีชื่อทัดกับพวกเข้ามาในหมู่บ้านเพื่อล่ากระสือ เป็นการล่าที่โหดเหี้ยมและทารุณ สายและน้อยก็พยายามหลบหนีอย่างสุดชีวิตและสู้กลับเท่าที่ทำได้
ไม่ใช่มีเพียงเฉพาะกระสือเท่านั้นที่ชาวบ้านเกรงกลัว ยังมีอสุรกายอีกตัวหนึ่งออกมาละวาดไล่ไล่ล่ากระสือด้วยการกินหัวใจของกะสือเพื่อทำให้ตนเองและเป็นอมตะ ดังนั้น สาย หญิงสาวผู้โชคร้าย นอกจากจะหนีการไล่ล่าของชาวบ้านแล้ว ยังต้องหนีจากการไล่ล่าของหมอผีและอสุรกายตัวนี้อีกด้วย เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปขอให้ท่านติดตามชมได้ทาง netflix movies
หนังไทยออนไลน์แนวแฟนตาซีเฮอร์เรอร์ที่โปรดักชั่นน่าดูมากถึงมากที่สุดเรื่องหนึ่งของปีนี้เลย สำหรับหนังผีกระสือ ผีโบราณที่แปลกแหวกความรู้สึกคนยุคใหม่ แต่ก็ทำออกมาได้รสชาติสากลแต่มีความขลังในแบบไทยสูงมาก ใครเด็กยุค 90 น่าจะจำละครช่อง 7 ที่มีกระสือยายสายและเนื้อเพลง “กระสือกลางวันมันเป็นหญิง มีทุกสิ่งธรรมด๊า ธรรมดา” ได้เป็นอย่างดี เรียกว่าเป็นอีกผีที่คู่ขวัญชาวไทยมาตลอดเช่นกัน
รอบนี้ค่าย ทรานสฟอร์เมชั่น ได้นำผู้กำกับ โดม-สิทธิศิริ มงคลศิริ ผู้กำกับ Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย มาถ่ายทอดจินตนาการเหนือจริง พร้อมด้วยดารานักแสดงรุ่นใหม่ในบทนำทั้ง โอบ-โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์, มินนี่-ภัณฑิรา พิพิธยากร และ เกรท-สพล อัศวมั่นคง และยังเป็นการคืนจออีกครั้งของดารารุ่นใหญ่อย่าง เอ็ม-สุรศักดิ์ วงษ์ไทย ด้วย เรียกว่าทั้งโปรดักชั่น ซีจี ดารา น่าตื่นตาตื่นใจไปหมดทีเดียวเชียว
ความรู้สึกหลังดูเรื่องนี้จบแล้ว
สิ่งที่ต้องชื่นชมอย่างมากคือความพิถีพิถันระดับงานคราฟต์ ของผู้สร้างหนัง คือ การถ่ายภาพ ไลท์ติ้ง โลเกชั่น อาร์ตไดฯ คอสตูม แต่งหน้า เทคนิคพิเศษ รวมถึงซีจี คือเนี้ยบมาก ทำดีต้องชม
ความตั้งใจนี่ถ่ายทอดมาให้เห็นในทุกเม็ดทุกดอกของหนังเลย และส่วนที่สำคัญมากคือ รสนิยมดี ดีตั้งแต่เริ่มคิดโปรเจ็กต์ พูดถึงกระสือเราก็ติดภาพเก่า ๆ แต่ผู้กำกับโดมกลับมองต่างออกไป ผีกระสือ เต็มเรื่องไม่ใช่ความแหวะ แต่มันคือความงดงามในแบบหนึ่ง แสงของกระสือคือแสงแห่งความยวนใจ ไม่ใช่ความสยอง
ผู้กำกับชี้ให้เห็นความต่างของเวอร์ชั่นนี้กับที่ผ่านมาว่า “ในฐานะคนดูหนังพอนึกถึงกระสือเรามักจะยึดติดกับผีสาวที่มีหัวกับไส้และกินอาจม แต่ทางทรานส์ฟอร์เมชั่นพูดขึ้นมาว่า แล้วทำไมเราไม่ทำออกมาให้มันดีล่ะ คำนี้ท้าทายผมมาก โจทย์ในหัวของก็คือจะทำยังไงให้ออกมาเป็นกระสือสวยงาม”
คำว่าสวยงามนี้สำคัญมากเหมือนเป็นคีย์ของโปรดักชั่นโดยรวมเลยทีเดียว และก็ตอบโจทย์การผสานงานอาร์ตกับงานบันเทิงที่ลงตัว นี่น่าจะเป็นปัจจัยความสำเร็จของหนังในตลาดเมืองนอกแน่ ๆ
สิ่งที่น่าชื่นชม
รีวิว แสงกระสือ ภาพยนตร์ไทย สุดน่ากลัว สิ่งที่ต้องชมต่อมาคือ การแสดง คือเราต้องไม่ลืมว่า บทนำ 3 คนนั้น มีถึง 2 คนที่จัดได้ว่าหน้าใหม่เลย และอีก 1 คนอย่างโอบ-นิธิ ก็ยังอยู่ในช่วงของการพิสูจน์ตัวเอง ทว่าการแสดงของทั้งสาม คือเอาอยู่ ไม่ใช่เอาอยู่ธรรมดามันรีดเร้นพลังตั้งแต่หัวใจมาถึงสายตาในการแสดงทีเดียว ต้องยอมรับว่า เราไม่ค่อยเห็นหนังไทยที่ดึงพลังการแสดงด้วยสายตามากนัก
ในขณะที่หนังต่างชาติเขาทำเป็นเรื่องปกติ การที่หนัง กระสือเรื่องนี้ทั้งให้จังหวะเวลาที่พอดี ให้การกำกับการแสดงที่ถูกต้อง และได้การแสดงที่ตรงโจทย์สื่อความอย่างสร้างสรรค์ จึงเป็นพลังด้านการแสดงที่ทำให้เราตราตรึงมากเช่นกัน นี่ยังไม่นับมาตรฐานการแสดงของดารารุ่นเก่าทั้งหลายที่มาช่วยขับเคลื่อนเรื่องซึ่งดีเป็นทุนแล้ว และการแสดงของตัวประกอบที่ชัดเจนว่าไม่ได้คัดมาแบบขอไปที แต่ตัวประกอบทุกตัวมีเรื่องราวมีการแสดงที่ส่งหนังได้อย่างน่าสะพรึง
ในด้านเนื้อหา หนังได้มะเดี่ยว-ชูเกียรติ มาเขียนบท ซึ่งเป็นผู้กำกับที่มีวิสัยทัศน์ดีในฐานะคนเขียนบทด้วย และแน่นอนเมื่อหนังขับมาทางความรักสามเส้า ความคิดจิตใจแบบมนุษย์ที่มิติซับซ้อน รวมถึงความเป็นดราม่าแบบย้อนยุค ก็เรียกว่าลงตัว ดึงศักยภาพของมะเดี่ยวออกมาได้เต็มที่ สิ่งหนึ่งที่บทของมะเดี่ยวทำได้ดีมากคือการไม่ทำให้ผู้ชมเบื่อแม้กราฟหนังจะเล่าไปแบบไม่มีจุดลุ้นนัก เพราะบทจะสอดแทรกจุดหักมุมมากให้ช็อกคนดูอยู่ทุกระยะอย่างชำนาญมือ
แล้วผู้กำกับหนังก็ไม่พลาดที่จะใช้บทที่ดีในการสร้างหนังที่ดี นี่จึงคือความสมบูรณ์ที่เราบอกได้ว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีและดูสนุก ไม่ได้สนุกในแบบหนังบันเทิงจ๋า แต่มันคือความสนุกของการดื่มด่ำไปกับรสทางอารมณ์ทั้งสุขเศร้า รักหวานซึ้ง การเสียสละ ความรันทดใจ อย่างยิ่งยวด ซึ่งคู่ควรกับคำว่า คลาสสิก จริง ๆ
ในอีกด้านเราอาจมองได้ว่านี่คือหนังแนวก้าวพ้นวัยในรูปแบบหนึ่ง เด็กสาวที่วันหนึ่งเธอต้องพบว่าชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือจะรับมืออย่างไร หากเปรียบเปรยการเป็นกระสือก็อาจเหมือนการเติบโตด้านร่างกาย มีประจำเดือน ร่างกายเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดความเขินอายต้องหลบซ่อน
แต่สุดท้ายเรื่องราวของกระสือก็เป็นการสอนว่าเราไม่อาจต่อต้านธรรมชาติของการเติบโตได้ ไม่ว่าทั้งด้านดีหรือด้านร้าย แค่ต้องเรียนรู้และยอมรับ ทั้งการเปลี่ยนแปลงของตนเอง และผู้อื่น ความรู้และการเปิดใจกว้างคือหนทางชนะสิ่งที่ไม่รู้และความกลัว หนังเรื่องนี้จึงให้คุณค่าในหลายระดับ ทั้งความงาม ปัญญา และอารมณ์
แสงกระสือสำหรับเราแล้วจัดได้ว่าเป็นภาพยนตร์ผีไทยที่ดีงามเรื่องหนึ่งของไทยแห่งยุคเลยทีเดียว มีการให้ภาพกระสือที่แตกต่างออกไปจากภาพจำที่เราเคยรับรู้มาจากอดีต คือการให้ภาพของกระสือที่ไม่ได้มีแต่ตับไตไส้พุงห้อยโตงเตงไปมา ซึ่งในเวอร์ชั่นแสงกระสือนี้ ได้ทำให้กระสือนั้นมีหัวหัวใจ
และเส้นสายบางอย่างซึ่งสามารถใช้เป็นอาวุธในการต่อสู้และป้องกันตัวเองได้ด้วย ทำให้กระสือในเวอร์ชั่นนี้มีความน่ากลัว และสามารถต่อกรกับบุคคลได้ และยังใช้อธิบายได้ว่า กระสือใช้สิ่งใดเจาะไส้พุงของสัตว์ เรียกได้ว่าเป็นการติดอาวุธให้กับกระสือให้มีความร้ายกาจมากยิ่งขึ้น
แสงกระสือให้อารมณ์หลากหลาย ทั้งความรักโรแมนติก ผ่านตัวละครหลักสามคนที่มีความรักแบบสามเส้า ให้อารมณ์เสียสละ ให้อารมณ์ความแค้น ให้อารมณ์สงสาร อารมณ์สูญเสีย แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้สามารถดึงอารมณ์คนดูอยู่กับภาพยนตร์ได้นั่นก็คือเพลงประกอบภาพยนตร์อันยอดเยี่ยมนั่นเอง
การเล่าเรื่องก็มีส่วนสำคัญ ผู้กำกับและคนเขียนบทค่อนข้างพิถีพิถันกับการเล่าเรื่องแบบตัดสลับไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน เนื้อเรื่องมีความกลมกล่อม มีที่มาที่ไป สร้างความสมเหตุสมผลมีน้ำหนักให้กับคนดูได้เข้าถึงและเข้าใจอารมณ์และการกนะทำของตัวละคร และกระสือในเวอร์ชั่นนี้ใส่ความ Fantasy ลงไปอย่างค่อนข้างพอดีอีกด้วย
นักแสดงทุกคนที่คัดมานั้นล้วนแต่มีคุณภาพ สำหรับบท สาย ที่แสดงโดย มินนี่ ภัณฑิรา พิพิธยากร ถือได้ว่าเธอสอบผ่านในขั้นดีเยี่ยม สามารถก้าวขึ้นมาเป็นนักแสดงมากฝีมือระดับแนวหน้าได้เลยทีเดียว ทัด หมอผีล่ากระสือ แสดงโดยสุรศักดิ์ วงษ์ไทย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความดีงามของภาพยนตร์ไทย
ซึ่งจุดนี้หากใครเป็นคอหนังไทยยุค90 เชื่อได้ว่าจะดึงอารมณ์ของคนดูให้ย้อนกลับไปโหยหาอดีตได้อย่างดี นอกจากนั้นนักแสดงนำและนักแสดงสมทบหลายคนก็ขึ้นชื่อเรื่องฝีมือการแสดง เรียกได้ว่าการคัดเลือกนักแสดงนั้นมีความลงตัวอย่างที่สุด
แต่ถึงอย่างไรบทบาทของตัวละครและการแสดง ของตัวละครบางตัวนั้นมีความ over acting อย่างชัดเจนมากเกินไป แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าทางทีมผู้กำกับคงต้องการทำให้คนดูได้รับรู้ถึงอารมณ์ของความเป็นหนังย้อนยุคให้ได้มากที่สุด
แม้จะขึ้นว่าชื่อว่าเป็นหนังผี แต่ก็ไม่ได้เน้นไปที่ความเป็นผีน่ากลัวสยองขวัญนัก แต่กับเน้นไปที่ความน่ากลัวของผู้คนต่อสิ่งที่เขาไม่เข้าใจเช่นเรื่องผี และสะท้อนไปถึงปฏิกิริยาป้องกันความกลัวนั้นด้วยการตามไล่ล่าผีอย่างไม่สนใจความเป็นมนุษยธรรม แม้ว่าผีนั้นจะอยู่ในร่างมนุษย์ก็ตาม กับกลายเป็นว่าคนดูไม่ได้กลัวผีกระสือแต่กลับกลัวผู้คนที่มาเป็น ๆ มากกว่า
จุดด้อยของเรื่องนี้
แต่ข้อเสียที่เป็นจุดสำคัญก็คือการใช้เทคนิคพิเศษหรือคอมพิวเตอร์กราฟิกนั้นยังอยู่ค่อนข้างขัดตาอยู่บ้าง เพราะจะให้เนียนเทียบเท่าเลือก Hollywood ก็คงยาก เพราะต้นทุนในการทำกราฟฟิกนั้นสูงมาก ได้เท่านี้ก็ดีกว่ามาตรฐานหนังไทยแล้ว
แสงกระสือ (2019) คือหนังผีไทย Netflix แฟนตาซี โรแมนติก ดราม่า สะเทือนอารมณ์ บทดี ดำเนินเรื่องงาม ซึ่งเราไม่ได้ดูหนังผีไทยและหนังไทยชั้นดีอย่างนี้มานานแล้ว เป็นการหยิบยกตำนานผีไทยอันโด่งดังมาตีความใหม่และเล่าเรื่องได้อย่างสวยงาม เรียกได้ว่าแสงกระสือสามารถเป็นหนังผีไทยระดับขึ้นหิ้งได้เลยทีเดียว