รีวิว Hereditary กรรมพันธุ์นรก
เรื่องราวของหนังผี Hereditary กรรมพันธุ์นรก เริ่มต้นเมื่อคุณยายของครอบครัวเสียชีวิต หลังจากพิธีศพดูเหมือนว่าครอบครัวที่เคยปกติสุขจะเริ่มเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติมากมาย เมื่อลูกสาวและเหล่าหลานชายหญิง เริ่มค้นพบความลับเกี่ยวกับบรรพบุรุษสายเลือดเดียวกัน ทำให้พวกเขาต้องพยายามหาวิธีการเอาชนะชะตากรรมอันแสนเลวร้ายที่กำลังคืบคลานเข้ามาหาอย่างช้า ๆ แต่.. สัมผัสได้ ทุกวิถีทาง ก่อนที่จะถูกมันกลืนกินจมลงสู่ความมืดมิด
รีวิว Hereditary กรรมพันธุ์นรก
สำหรับจุดเด่นของหนังผี Hereditary กรรมพันธุ์นรก ดูเหมือนจะเป็นการพยายามวางโครงเรื่องอย่างละเอียดอ่อนในการผสมผสานความสยองขวัญ + เหนือธรรมชาติ + คำสาปแช่ง แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะพยายามทำให้ลึกซึ้งมากเกินไป จนนำไปสู่รายละเอียดปลีกย่อยมากมายชนิดที่ว่าหากชมเพียงครั้งเดียวอาจจะไม่สามารถค้นหาสิ่งที่ซ่อนเอาไว้ได้หมด แน่นอนว่าความลึกซึ้งเป็นสิ่งที่ดี แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นดาบสองคมเช่นกัน เพราะผู้ชมหนังสยองขวัญส่วนใหญ่อาจไม่ได้ต้องการเสพเนื้อหาอันลึกซึ้ง เพียงต้องการความตื่นเต้น+สยองขวัญ ที่จะทำให้ขนลุกเท่านั้นเอง ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่หนังผี Hereditary กรรมพันธุ์นรก จะได้รับกระแสวิจารทั้งสองด้านสลับขั้วกันอย่างชัดเจน
ประเด็นหนึ่งที่ชัดเจนมากที่สุดในหนังเรื่องนี้คือ ตัวละครพยายามอย่างมากที่จะควบคุมชะตากรรมของตัวเองจากพลังคุกคามภายนอกที่มองไม่เห็น และต่อสู้กับจิตใจภายในของตัวเองที่นับวันจะยิ่งร่วงหล่นสู่ความวิปลาสได้อย่างน่าสนใจ หนังเรื่องนี้จึงไม่ได้เป็นความกลัวแบบทำให้สะดุ้ง แต่เป็นการชี้ให้เห็นความชั่วร้ายที่ค่อย ๆ กัดกินจิตใจจนกระทั่งทะลุลึกลงไปถึงจิตวิญญาณของตัวละคร
ในส่วนของจุดด้อย หนังผี Hereditary กรรมพันธุ์นรกเรื่องราวมีความ “ดราม่าสูงมาก” ถึงขนาดที่ว่า ถ้าหากใครไม่ชอบหนังชีวิตที่มีการคร่ำครวญเกือบตลอดเวลา หนังเรื่องอาจสร้างความรำคาญใจให้โดยง่ายดายเลยทีเดียว
เนื้อหาของหนังเหมือนกับไม่ค่อยมีทิศทางที่ชัดเจนนัก จะว่าดราม่าก็ไม่หนักมาก จะว่าน่ากลัวก็น้อยเกินไป จะว่าลึกลับก็ไม่เข้าขั้น แต่ดูเหมือนว่าการโฆษณาประชาสัมพันธ์หนังเรื่องนี้ในช่วงก่อนการออกฉายจะทำออกมาดีมากในต่างประเทศ ทำให้คนดูมากมายคล้อยตามว่าจะได้รับชมหนังสยองขวัญฟอร์มยักษ์ที่แสนน่าสนใจ!?
CGI ของหนังผี Hereditary กรรมพันธุ์นรก พูดแบบไม่อวยคือ มันดูตลกมากกว่าที่จะทำให้รู้สึกน่ากลัว และด้วยเวลาที่เหลือเฟือกว่าสองชั่วโมง ทำให้เนื้อหาในหนึ่งชั่วโมงแรกไม่มีอะไรมากนัก เมื่อไม่มีอะไรคืบหน้าใน 30 นาที แรก มันก็สร้างความเบื่อหน่ายให้กับการรอคอยอย่างมากเลยทีเดียว ดูหนัง
เนื้อเรื่อง
สำหรับผู้เขียน หนังผี Hereditary กรรมพันธุ์นรก เป็นหนังที่ค่อนข้างดูยากไปสักหน่อย มันต้องใช้ความคิดตามตลอดทั้งเรื่องและในช่วงแรกของหนังเกือบตลอดชั่วโมง ไม่ค่อยมีสิ่งที่สามารถดึงดูดความสนใจเอาไว้ให้ติดตามต่อนัก ทำให้หนังเรื่องนี้อาจไม่ค่อยเหมาะกับคนที่มีความอดทนน้อยสักเท่าใดนัก
แต่.. ถ้าหากใครชอบหนังสยองขวัญที่เต็มไปด้วยรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย ที่จำเป็นจะต้องนำมาประกอบรวมกันเพื่อเข้าใจความสยองขวัญทั้งมวล หรือศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับแม่มด ปีศาจในฝั่งตะวันตกมาพอสมควร เชื่อว่าอาจจะทำความเข้าใจหนังผี Hereditary กรรมพันธุ์นรก ได้มากขึ้นพอสมควรเลยทีเดียว…
Hereditary เป็นหนังที่โปสเตอร์ชวนสะดุดตาที่สุดแห่งปี ตั้งแต่ภาพคนสี่คนยืนหลอน ๆ อยู่ด้วยกัน ประกอบกับชื่อไตเติ้ลของหนังที่ภาษาอังกฤษดูยากที่ pronounce และภาษาไทยที่ชวนสะพรึง แล้วยิ่งพอได้ดู ยิ่งต้องบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้ไม่ธรรมดา
Hereditary เป็นเรื่องของครอบครัวของ Annie (Toni Collette จาก The Sixth Sense) และ Steve (Gabriel Byrne จาก The Man in the Iron Mask) สองสามีภรรยาที่มีลูกสองคน ได้แก่ Peter (Alex Wolff จาก Jumanji: Welcome to the Jungle) และ Charlie (Milly Shapiro) โดยเรื่องราวสุดสยองของเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ Annie สูญเสียแม่ของเธอไป ดูหนังออนไลน์
การดำเนินเรื่อง
หากแต่สิ่งที่ตามหลอกหลอนครอบครัวนี้จริง ๆ ไม่ใช่ผีหรือวิญญาณของคุณยายที่ยังสิงสถิตอยู่ในบ้าน แต่มันคือสิ่งที่ติดตัวพวกเขามาหรืออยู่ในสายเลือดมาตั้งแต่เกิด เท่าที่พอจะเล่าได้และไม่เป็นการสปอยล์มากเกินไป สิ่งหนึ่งก็คือ อาการ โรค หรือความผิดปกติทางจิต ซึ่งส่งต่อกันมาถึงลูกหลานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ภาวะการสูญเสียยิ่งทำให้อาการของพวกเขาชัดเจนและรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะ Annie และ Peter ซึ่งบทบาทของสองตัวละครนี้ส่งให้ Toni Collette และ Alex Wolff ได้ปล่อยพลังฝีมือกันแบบสุดฤทธิ์ อย่าง Toni Collette นี่แสดงได้เหมือนเป็นบ้าไปแล้วจริง ๆ แถมยังเล่นเอาคนดูอย่างเราแทบจะประสาทกินตาม
ความเชื่อของพวกเขาเป็นสิ่งที่เราไม่เคยเข้าถึง อาจด้วยความแตกต่างทางวัฒนธรรมก็ด้วย และความคิดเห็นส่วนตัวลึก ๆ อยู่แล้วก็ด้วย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ถึงแม้บทสรุปจะไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่บทถูกเขียนร้อยเรียงมาอย่างดีลงตัว แถมยังคาดเดาได้ยาก อีกทั้ยังมีความน่ากลัวในแบบของมันโดยไม่ต้องอาศัยตุ้งแช่ (จัมพ์สแกร์)
มันอาจจะไม่ได้เป็นหนังที่น่ากลัวที่สุดหรือหลอนที่สุด แต่ทุกองค์ประกอบของหนังล้วนถูกสร้างมาอย่างดี สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดนั้นก็คือการสร้างบรรยากาศ โดยเฉพาะในบ้าน ที่ไม่ว่าจะเป็นการใช้ภาพ ซาวนด์ จนถึงการแสดงของนักแสดงทุกคน ล้วนส่งให้หนังมีความน่ากลัวและทรงพลังยิ่งกว่าหนังผีหลาย ๆ เรื่อง
รีวิว Hereditary
นี่ไม่ใช่หนังสยองขวัญสไตล์ James Wan ที่คนดูทั่วไปจะเข้าถึงได้ แต่ก็เข้าถึงง่ายกว่าเรื่อง The Witch ที่ค่ายนี้เคยทำออกมาเมื่อปีสองปีก่อน และมีกลิ่นอายของหนังขึ้นหิ้งแนวเดียวกันเรื่องเก่า ๆ อยู่หลายเรื่อง เช่น (เท่าที่เราเคยดูก็) It Follows, The Shining, และ The Babadook ซึ่งถ้าเป็นแต่ก่อน เราจะชอบหนังสไตล์นี้มาก (ย้อนไปอ่านรีวิวเก่าของเรื่องนั้น ๆ ได้) แต่ถ้าเป็นตอนนี้ เราไม่ค่อยอินกับเขาแล้วสักเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยอยากดูอะไรที่เครียด ๆ (แต่ไม่ได้บอกว่ามันไม่ดีนะ เพราะว่ามันดีมาก แต่แค่กูเครียด 555)
สุดท้ายก็ต้องขอบอกว่า Hereditary อาจจะเป็นหนังที่น่ากลัวมาก ในขณะเดียวกัน มันอาจจะเป็นหนังที่ WTF มาก แต่มันก็เป็นหนังที่เราแนะนำว่า แต่ละคนควรจะไปดูและสัมผัสมันด้วยตัวเอง หนัง4k
เป็นหนังที่กระแสดีมากในต่างประเทศ เกี่ยวกับความสยองขวัญของหนังเรื่องนี้ที่แค่เห็นหน้าลูกสาวของครอบครัวนี้ก็ขนลุกแล้ว ตัวอย่างหนังที่ตัดออกมาก็ค่อนข้างจะดูลึกลับน่ากลัว เดาทางไม่ถูกเลยทีเดียว พอดีทาง Mono Film เชิญไปดูรอบสื่อ ก็เลยรีบตอบรับทันที
Hereditary เป็นเรื่องราวของครอบครัว Graham ที่หลังจากสูญเสียปูชนียบุคคลในครอบครัวไป ลูกหลานในครอบครัวนี้ก็เริ่มจะเจอสิ่งลึกลับและน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เริ่มที่จะรู้เรื่องราวอันน่าสะพรึงกลัวเกี่ยวกับต้นตระกูลบรรพบุรุษของพวกเขา หนังเล่าเรื่องช่วง 1 ชั่วโมงแรกด้วยอารมณ์ตึงเครียดของครอบครัวที่เหมือนจะรักกันดี แต่เหมือนมีอะไรตึงๆ อยู่ตลอดตั้งแต่ผู้เป็นยายตายไป แถมลูกสาวคนเล็กก็คล้ายจะเป็นออทิสติก ทำให้ดูเครียดตลอดเวลา หนังเล่าด้วยอารมณ์เนิบๆ แต่มีอะไรลึกลับซ่อนอยู่ในทุการดำเนินเรื่องตลอดเวลา
จนมาถึงช่วงกลางของเรื่องพอเกิดเหตุพลิกผันให้ครอบครัวเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่หนังก็เริ่มใส่ความน่ากลัวเข้ามาเรื่อยๆ แต่ความน่ากลัวของหนัง หนังไม่ได้ใช้การเล่นเสียงดังให้คนตกใจ หรือเล่นผีตุ้งแช่ให้กรี๊ดลั่นโรง แต่หนังกลับใช้บรรยากาศที่มันทะมึนตลอดเวลา บวกกับเทคนิคกล้องที่เล่นแบบ Close-up หน้าตัวละครที่หวาดระแวง แล้วค่อยแพนออกไปให้รู้ว่ามีอะไรอยู่ ซึ่งสร้างความหวาดระแวงให้คนดูอยู่ตลอดทั้งเรื่อง และที่ทำให้หลอนอยู่ตลอดคือเสียงเต๊าะลิ้นที่เป็นเอกลักษณ์ของลูกสาวคนเล็กนี่แหละ มาทีไรสะดุ้งทุกทียิ่งไปกว่านั้น หนังค่อยๆ เฉลยเรื่องราวออกมาทีละนิดๆ ว่าเหตุใดครอบครัวนี้จึงต้องเจอกับเรื่องราวประหลาดอยู่ตลอดเวลา และยิ่งตัวละครพยายามจะแก้ไขปมตรงนี้มากเท่าไหร่ กลับกลายเป็นยิ่งทวีความรุนแรงของปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงตอนจบ พอเฉลยออกมานี่กลายเป็นว่า หนังหลอกคนดูซะหลังหักเลยทีเดียว
องค์ประกอบหลักสำคัญของหนังคือความตึงเครียดในครอบครัวที่หนังพยายามจะทำให้คนดูอึดอัดตลอดเวลา ซีนดราม่าในครอบครัวหนังก็ทำได้ดีจนคนดูแทบจะระเบิดอารมณ์ตาม ด้วยฝีมือการแสดงของทั้ง 4 คนในครอบครัว ที่บางคนอาจจะเหมือนไม่ได้มีบทบาทสำคัญ แต่พอถึงจุดๆ หนึ่งกลายเป็นตัวขับเคลื่อนความน่ากลัวของหนังไปซะได้
รีวิว กรรมพันธุ์นรก
เริ่มเรื่องมา หนังก็เล่าเรื่องของการจากไปของคุณยายแทบจะในทันที ตามมาด้วยฉากหลอนๆ และเรื่องราวแปลกๆ ชวนให้สงสัยยิ่งว่าทั้งหมดที่เห็นอยู่นี่มันคืออะไรความเปลี่ยนที่เกิดขึ้นเร็วมากกับครอบครัวๆ นี้ แรกๆ เราก็คิดว่ามันต้องออกมาแนวนี้แน่ๆ เลย ปรากฏว่าเมื่อเวลาผ่านไป เอ้า มันกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต้องบอกว่า การไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับพล็อตโดยรวมของเรื่องนี้เลย รู้แค่เรื่องย่อที่ผมเขียนให้ข้างต้นทำให้สนุกกับการติดตามเรื่องได้มากกว่า
สิ่งที่หนังคือ การให้ข้อมูลที่ไม่ครบ ไม่ครบอะไรสักอย่าง จนการปะติดปะต่อทำได้ยาก และคิดไปหลายทาง แต่ก็พบว่าหลงไปทางอื่นได้ง่ายมาก แม้หนังจะเริ่มเฉลยช่วงกลางเรื่อง แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรสักเท่าไหร่ ยังมึนงงสงสัยไปจนถึงช่วงท้ายโน่นเลย
เรื่องราวที่เกิดในครอบครัวที่ไม่ค่อยมีใครลงรอยกับใคร แถมตัวละครบางตัวยังมีความผิดปกติที่ชวนให้เขวไขว้ไปได้ง่าย Toni Collette คือนักแสดงที่เล่นได้โดดเด่นที่สุดแล้วในหนังเรื่องนี้ เธอพาคนดูสับสนและงงงันกับสิ่งที่เกิดเล่นสุดตัวเพื่อให้เป็นตัวละครที่คนจะสงสัยมากที่สุด
สำหรับคนที่ขวัญอ่อนก็อาจจะใจเต้นระทึกได้ง่ายๆ แต่สำหรับคนที่ได้กลัวผีในหนังอย่างผม การได้ชมหนังที่เล่าเรื่องได้น่าติดตาม ชวนสงสัยพาให้ต้องปะติดปะต่อตลอดเรื่อง แถมยังพาเราหลงทางได้อีกต่างหากถือเป็นประสบการณ์การดูหนังสยองขวัญที่น่าประทับใจไม่พอ บางจุดยังใช้มุกตุ้งแช่ที่ไม่เหมือนกับที่ไหน บางจุดก็เดินเข้าสู่จุดที่เซอร์ไพรส์ไม่ทันคาดคิด เล่นเอาอึ้งแดกกันไปทั้งโรง เขาตัดต่อโดยไม่ใช่ดนตรีโฉ่งฉ่างเร้าอารมณ์ แต่ใช้เล่นกับความเงียบและอารมณ์แทนระหว่างที่ดูก็ได้แต่คิดในใจ “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่วะเนี่ย?” หลายคำถามเกิดขึ้นในหัว พยายามหาคำตอบไปพร้อมๆ กับข้อมูลใหม่ๆ ที่ใส่เข้ามาเพิ่มตลอด แถมยังใส่กิมมิกเล็กๆ น้อย กับการถ่ายทำ มุมมองภาพ และการตัดต่อที่เท่และอินดี้ ดูหนังออนไลน์4k
เรื่องย่อ Hereditary กรรมพันธุ์นรก
เรื่องราวของหนังผี Hereditary กรรมพันธุ์นรก เริ่มต้นเมื่อคุณยายของครอบครัวเสียชีวิต หลังจากพิธีศพดูเหมือนว่าครอบครัวที่เคยปกติสุขจะเริ่มเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติมากมาย เมื่อลูกสาวและเหล่าหลานชายหญิง เริ่มค้นพบความลับเกี่ยวกับบรรพบุรุษสายเลือดเดียวกัน ทำให้พวกเขาต้องพยายามหาวิธีการเอาชนะชะตากรรมอันแสนเลวร้ายที่กำลังคืบคลานเข้ามาหาอย่างช้า ๆ แต่.. สัมผัสได้ ทุกวิถีทาง ก่อนที่จะถูกมันกลืนกินจมลงสู่ความมืดมิด
ชื่อภาพยนตร์: Hereditary / กรรมพันธุ์นรก
ผู้กำกับภาพยนตร์: Ari Aster
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Ari Aster
นักแสดงนำ: Toni Collette, Milly Shapiro, Gabriel Byrne, Alex Wolff, Mallory Bechtel
ความยาว: 127 นาที
แนว/ประเภท: Drama, Horror, Mystery, Thriller
อัตราส่วนภาพ: 2.00 : 1
เรท: ไทย/ , MPAA/R
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 14 มิถุนายน 2561
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: PalmStar Media, A24, Mono Film
สรุปโดยรวม Hereditary กรรมพันธุ์นรก
สำหรับผู้เขียน หนังผี Hereditary กรรมพันธุ์นรก เป็นหนังที่ค่อนข้างดูยากไปสักหน่อย มันต้องใช้ความคิดตามตลอดทั้งเรื่องและในช่วงแรกของหนังเกือบตลอดชั่วโมง ไม่ค่อยมีสิ่งที่สามารถดึงดูดความสนใจเอาไว้ให้ติดตามต่อนัก ทำให้หนังเรื่องนี้อาจไม่ค่อยเหมาะกับคนที่มีความอดทนน้อยสักเท่าใดนัก
แต่.. ถ้าหากใครชอบหนังสยองขวัญที่เต็มไปด้วยรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย ที่จำเป็นจะต้องนำมาประกอบรวมกันเพื่อเข้าใจความสยองขวัญทั้งมวล หรือศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับแม่มด ปีศาจในฝั่งตะวันตกมาพอสมควร เชื่อว่าอาจจะทำความเข้าใจหนังผี Hereditary กรรมพันธุ์นรก ได้มากขึ้นพอสมควรเลยทีเดียว รีวิวหนังผี
สรุป
ความน่ากลัวอาจจะไม่ได้มากเท่าไหร่สำหรับคนที่ไม่กลัวผีในหนัง แต่มันมีความหลอน ความเพี้ยน ที่ผ่านการเล่าที่ไม่บอกอะไรทั้งหมด ชวนปะติดปะต่อ แต่ก็พาหลงทางไปหลายหน ช่วงท้ายคือการเพี้ยนขั้นสุด หนังไม่เน้นเสียงดังโฉ่งฉ่าง เล่ยกับความเงียบและอารมณ์ทำให้ทั้งเรื่องดูมีความแตกต่างจากหนังสยองขวัญเรื่องอื่นๆ
6/10