รีวิว JACOB’S LADDER (1990)

แนวสยอง การไม่รู้อะไรเลยอาจเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าไม่รู้ไปตลอดย่อมไม่เจอคำตอบ สำหรับเรื่องนี้การไม่รู้อะไรเลยว่าต้องเจอกับอะไรช่วยให้เราสงสัยตลอดเวลา แล้วมันอาจจะดีกว่าถ้าเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จะดีกว่ามากถ้ารู้และยอมรับสิ่งนั้นได้ เฉกเช่นความสงสัยของ นายจาคอร์ป (Tim Robbins) ที่เริ่มเห็นภาพหลอนมากขึ้นจนเป็นปัญหาการดำเนินชีวิตประจำวันจนส่งผลกระทบชีวิตคู่กับ เจสซี่ (Elizabeth Peña) ที่ต้องทะเลาะเป็นบางครั้ง เขาพยายามหาคำตอบให้กับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ยิ่งหายิ่งสร้างความลำบากใจมากขึ้นเพราะความจริงนั้นยากเกินจะรับได้ไหว นั้นทำให้จาคอร์ปต้องเลือก?

รีวิว JACOB'S LADDER (1990)

เป็นหนังสยองขวัญที่สร้างอารมณ์หลอนได้สุดขั้วพอสมควร ไม่ว่าจะสัตว์ประหลาด ลักษณะที่ผิดเพี้ยน หรือความผิดปกติมากมายล้วนทำให้คาดเดาได้ยากว่าตกลงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมถึงมีภาพหลอนคอยก่อกวนชีวิตจิตใจ มาได้อย่างไรไม่มีใครบอกนอกจากฉากเปิดเรื่องที่เหมือนมีส่วนส่งผลกระทบจิตใจจากการทำสงครามเวียดนาม อดีตนั้นเป็นทหารร่วมต่อสู้ก็เป็นไปได้ว่าความโหดร้ายในครั้งนั้นคอยหลอกหลอนรบกวนจิตใจ การกลับมาใช้ชีวิตหลังสงครามจึงไม่เหมือนเดิมเพราะสภาพจิตใจที่อ่อนแอ

รีวิว JACOB'S LADDER (1990)

แม้เป็นข้อมูลเพียงเล็กน้อยที่หนังบอกในฉากเปิดเรื่องแต่ยังเต็มไปด้วยความสงสัยว่าเป็นไปได้ขนาดไหนที่มองเห็นภาพหลอนออกมาในแปลกประหลาดขนาดนี้ ขณะเดียวกันไม่มีอะไรที่ชี้ไปยังเรื่องการทำสงคราม สิ่งนี้เหมือนเป็นเพียงฉากประกอบว่าเขาผ่านความเลวร้ายมาแล้วและสิ่งนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลยกับความเลวร้ายที่เขาเจอในตอนนี้ บางครั้งเหมือนกำลังถูกกลั่นแกล้งให้ผิดจากเรื่องปกติที่ตัวเองเคยทำอยู่ประจำ ยิ่งนั้นทำให้ต้องหาความจริงให้เร็วก่อนจะกลายเป็นคนเสียสติในที่สุด

รีวิว JACOB'S LADDER (1990)

แม้จะต้องทนทุกข์กับอาการหลอนเสมือนจริงราวกับถูกควบคุมชีวิตก็ยังมีคนที่ให้กำลังใจอยู่เสมอ นั้นคือ ดูหนัง หลุยส์ (Danny Aiello) หมอนวดประจำตัวของจาคอร์ป ไม่ว่าจะเกิดอะไรจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับชีวิตอยู่เสมอ เป็นบุคคลเดียวที่พยายามดึงจากห้วงเวลาที่มืดบอดมาสู่หนทางสว่างอีกครั้ง ขณะเดียวกันเหมือนกำลังบอกใบ้บางอย่างเกี่ยวกับตัวจาคอร์ปที่ยังหาคำตอบไม่พบ ซึ่งผู้ชมอาจจะรู้เป็นนัยๆอยู่บ้างแล้วแต่ยังประติดประต่อเนื้อเรื่องไม่ได้

สำหรับหมอหลุยส์ไม่ใช่ใครอื่นใดหากเป็นผู้ช่วยแก่คนที่หลงทาง หรืออีกนัยหนึ่งคือ”เทวทูต” แต่เรื่องของสวรรค์นรกมาเกี่ยวข้องกับจาคอร์ปได้อย่างไรไม่สามารถให้คำตอบได้จนกว่าจะรู้เรื่องอาการที่มาของภาพหลอนนี้ โดยอาการเหล่านี้มาจากผลข้างเคียงของยาที่ใช้ตอนทำสงครามเวียดนาม วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสู้รบให้กับทหารที่ยังมีความกลัว ผลคือมีความก้าวร้าวแต่อยู่เกินขอบเขตควบคุมไว้ได้ ทั้งนี้ส่งผลกระทบระยะยาวแก่จาคอร์ปที่วนเวียนเห็นภาพหลอนแม้จะกลับมาใช้ชีวิตในเมืองแบบคนธรรมดาทั่วไปก็ตาม

Flashback คือสิ่งสำคัญของเรื่องที่พยายามเข้ามาทุกช่วงทุกเวลาเหมือนให้ตระหนักอะไรสักอย่าง ซึ่งมีทั้งเรื่องตอนสงครามเวียดนามและตอนก่อนสงครามกับครอบครัวเดิมที่พร้อมหน้าพร้อมตาด้วย ซาราห์ (Patricia Kalember) ภรรยาคนรักและลูกทั้งสาม แต่คนที่คิดถึงมากที่สุดคือ เกบ (Macaulay Culkin) ลูกชายคนสุดท้องที่ต้องเสียไปด้วยอุบัติเหตุรถชน ซึ่งเป็นปมในใจเกี่ยวกับข้อผิดพลาดบางอย่างที่กัดกินจิตใจมาตลอด เป็นสิ่งที่ไม่เชื่อว่าเกิดขึ้นและไม่อยากให้เกิดขึ้น

“ปล่อยวาง”

รีวิว JACOB’S LADDER (1990)

รีวิว JACOB’S LADDER (1990) สถานการณ์ไม่สู้ดีนักต่อให้กระจ่างในข้อสงสัยมากมายก็ตามเพราะติดอยู่กับความกังวลและสับสน อนึ่งยังไม่พร้อมจะยอมรับความจริงเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมด นั้นทำให้ย้อนกลับมายังสถานที่เก่าอย่างบ้านที่เคยอยู่กันครบทั้งครอบครัว นั่งคิดตระหนักถึงเรื่องทั้งหมดและยอมรับความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้น ในฉากนี้จะมีลูกชายของจาคอร์ปที่สูญเสียไปแล้วมานั่งรอตรงหน้าบันไดราวกับว่ามาต้อนรับและชวนขึ้นบันไดที่ไม่เห็นปลายทางนอกจากแสงสว่าง หลังจากนั้นกลายเป็น Flashback สุดท้ายที่ไม่ได้หมายถึงระลึกความหลังแต่เป็นปัจจุบันของจาคอร์ปที่นอนบนเตียงในชุดทหาร โดยหมอบอกว่าเขานั้นเสียชีวิตแล้ว

เรื่องราวของจาคอร์ปกลายเป็นตอนจบที่หักมุมอยู่หลายขุมเพราะดั้งเดิมนั้นคิดว่าเป็นเพียงฤทธิ์ของยาที่ส่งผลกระทบต่อการรับรู้จนเห็นภาพหลอน ซึ่งอาจจะจริงแต่ไม่ใช่ทั้งหมด เมื่อลองย้อนกลับไปจะเห็นสภาพย่ำแย่ของจาคอร์ปที่ถูกแทง ทว่าการถูกแทงจนได้รับบาดเจ็บเกิดจากทหารฝ่ายเดียวกันเพราะยาที่กระตุ้นเกินควบคุม สิ่งนี้เผยเรื่องราวที่มาของภาพหลอนที่คิดว่าใช่เพราะเพื่อนที่เคยเป็นทหารมีอาการเดียวกัน ประเด็นนี้พูดถึงยาที่นำมาใช้กับทหารในทางที่ผิดและเป็นเรื่องต่อต้านยาอย่างหนึ่ง

แต่แล้วเรื่องราวยังค้างคาอยู่ตลอดเกี่ยวกับการพูดของตัวละครเหมือนบอกใบ้อะไรสักอย่างที่ไม่เอ่ยถึงตรงๆ บางครั้งพูดเหมือนไม่ใช่โลกที่เขาอยู่แล้วจะทำอะไรก็ได้เหมือนเรื่องปกติหรือจะการให้คำแนะนำที่ดีที่เผอิญพูดถึงเรื่องความตายของหมอหลุยส์ ซึ่งคำพูดนั้นต้องการแสดงถึงการอย่ากลัวความตาย ให้ยอมรับเพราะเป็นชะตากรรมแล้วหนทางจะดีเอง ถ้ากลัวที่จะตายจะเห็นสิ่งชั่วร้ายพวกปีศาจมากวนจิตใจ นั้นเป็นนัยยะที่ว่าจาคอร์ปตายไปแล้วตามที่เห็นในฉากสุดท้ายของหนัง

ส่วนวิญญาณยังคงดำเนินต่อไปโดยยึดติดการ ดูหนัง 4k ใช้ชีวิตหลังสงคราม มีคนรักใหม่ มีชีวิตแบบคนทั่วไป แต่ต้องประสบกับภาพหลอนที่หนีไม่พ้น ทว่าภาพหลอนที่คิดว่าคือฤทธิ์ยาที่ตกค้างนั้นไม่ใช่ความจริงแต่เป็นปีศาจที่คอยดึงรั้งให้ทุกข์ทรมานนั่นหมายความว่าแทบทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องแต่งโดยสิ่งชั่วร้ายเพื่อให้ จาคอร์ปไม่สามารถไปสู่หนทางแห่งความจริงหรือทางสว่างในตอนจบ ซึ่งเรื่องราวนี้ไปอิงในพระคัมภีร์ไบเบิลตามพระธรรมปฐมกาล (28:11-19) เกี่ยวกับจาคาร์ปหาที่พักนอน จากนั้นฝันเห็นบันไดที่พื้นดินทอดยาวไปถึงท้องฟ้าและบนสุดคือพระเจ้า

ในคริสต์ศตวรรษที่ 7 มีนักบุญจอห์น คลิมาคัส (John Climacus) เป็นที่นับถือทั่วยุโรปไม่ว่าจะนิกายไหนก็ตาม ด้วยความเป็นผู้คนเคารพนับถือและยึดเป็นแบบอย่างจึงเสมือนผู้นำก้าวขึ้นบันไดหาพระเจ้าในขั้นสุดท้ายเพื่อไปสู่สวรรค์ ทั้งนี้การขึ้นบันไดยังได้เทวทูตช่วยร้องสรรเสริญและให้กำลังใจแก่ทุกคน ทางกลับกันมีสิ่งชั่วร้ายพยายามทำทุกวิธีทางให้คนตกจากบันได ฉะนั้นบันไดนี้จึงเสมือนการฝึกฝนร่างกายและคุณธรรมเพื่อระดับจิตวิญญาณให้สูงสู่พระผู้เป็นเจ้า

เปรียบกันแล้วใน Jacob’s Ladder ก็มีเทวทูตให้เห็นคือหมอหลุยส์ที่พยายามให้คำแนะนำช่วยเหลือแก่จาคอร์ปตระหนักถึงผลที่ตามมา ส่วนเจสซี่และอื่นๆคือความชั่วร้ายที่ดึงให้จาคอร์ปหลงใหลและกลัวในความตาย สังเกตได้ว่าเจสซี่เป็นตัวดึงสู่กิเลสและผลักส่วนที่มีความสุขของจาคอร์ปทิ้งไปด้วยการเผารูปเก่าๆสมัยอยู่กับซาราห์และลูกทิ้งไป กระนั้นการไปสู่สวรรค์หรือการขึ้นบันไดไม่มีนักบุญหรือคนชักพา จะมีแค่ตัวเองเท่านั้นที่สามารถทำได้ เนื่องจากจาคอร์ปยังไม่เชื่อว่าตัวเองตายจึงเป็นเหตุผลที่หมอหลุยส์บอกว่าอย่ากลัวความตายเพราะจะเห็นปีศาจ เมื่อจาคอร์ปยอมรับความจริงนี้จึงนำพาไปสู่บันไดที่มีลูกรออยู่(สังเกตว่าลูกในโลกความจริงตายไปแล้ว ฉะนั้นการเจอลูกเป็นคำตอบว่าจาคอร์ปตายแล้วจริงๆ)

Jacob’s Ladder เป็นหนังสยองขวัญที่เต็มไปด้วยฉากหลอนประสาทชวนให้ตื่นเต้นตลอดการ ดูหนังออนไลน์ ความแน่ไม่แน่นอนล้วนน่ากลัว จึงไม่แปลกใจถ้าความน่าสะพรึงจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเกม Silent Hill อีกทั้งความประหลาดที่บอกไม่ถูกว่าคือตัวอะไรก็ได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปินวาดรูปของ Francis Bacon และอีกสัญลักษณ์มากมายในหนังที่ซ่อนเอาไว้แต่ไม่รู้ก็ไม่ส่งผลต่อเนื้อเรื่องหลัก สิ่งต้องรู้คือนี่คือหนังสยงอขวัญที่มีชั้นเชิงมากที่สุดเรื่องหนึ่ง การเล่าเรื่อง อารมณ์ ตัวละคร จังหวะ ทั้งหมดนี้ล้วนแสดงถึงคุณภาพที่บอกเลยว่ายอดเยี่ยม จะเสียดายฉาก Deleted Scene เพราะที่ตัดไปมีแต่ฉากสยองขวัญเด็ดๆทั้งนั้นและเฉลยตัวละครอย่างเจสซี่ว่าจริงแล้วคืออะไร ถ้าเฉลยมันคืออีกด้านหนึ่งของจาคอร์ปนั้นแหละ

jacob’s ladder เรื่องราวของ เจค็อบ ซิงเกอร์ อดีตทหารผ่านศึกที่เคยเข้าร่วมรบในสงครามเวียดนาม ภายหลังเขากลับจากสงคราม เจค็อบเลือกที่จะทำงานเป็นบุรุษไปรษณีย์ ทั้งๆที่ก่อนเขาจะเข้าร่วมสงครามเขาเป็นถึงด็อกเตอร์มาก่อน สาเหตุที่ทำให้เขาเลือกแบบนั้นก็เพราะว่ามีบางสิ่งบางอย่างตามหลอกหลอนเขา ภาพในอดีตในช่วงที่เขาเข้าร่วมรบในสงครามได้แว๊บไปแว๊บมาในหัวของเขาอยู่ตลอดเวลา ทำให้เจค็อบไม่สามารถใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาปกติได้ อีกทั้งเจค็อบยังเห็นเหล่าตัวประหลาดที่เหมือนกับปิศาจในขุมนรกมาคอยจ้องเอาชีวิต เจค็อบพยายามหาคำอธิบายกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ทำไมเขาถึงพบเจอกับเรื่องราวสุดเลวร้ายแบบนี้ จนสุดท้ายเจค็อบก็พบสาเหตุบางอย่างที่อาจเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น เขาได้ล่วงรู้มาว่ากองทัพสหรัฐได้ทำการทดลองบางอย่างในระหว่างช่วงสงคราม เนื่องจากกองทัพสหรัฐมีปัญหาเกี่ยวกับจิตใจของเหล่าทหาร ที่พวกเขาไม่มีใจสู้และรบได้ไม่ดุเดือดเท่าพวกเวียดกง กองทัพจึงได้ทำการวิจัยยาตัวหนึ่ง ที่เพิ่มขีดความสามารถให้กับทหาร เพิ่มความมุทะลุและบ้าคลั่ง ทำให้เหล่าทหารรบได้อย่างดุเดือดและเอาเป็นเอาตาย ยาตัวนี้ที่มีชื่อว่าแลตเดอร์ และมันถูกฉีดให้กับทหารทุกคน ไม่เว้นแต่ตัวเจค็อบเองก็ด้วย และนี่อาจเป็นคำอธิบายของคำตอบที่เจค็อบเฝ้าตามหาอยู่ก็เป็นได้

ให้ดาวกับเนื้อหาของเรื่อง

รีวิว JACOB’S LADDER (1990) ระดับของเนื้อหา 4 ดาว ดูหนังออนไลน์ 4k นี่ไม่ใช่หนังสยองขวัญธรรมดาๆทั่วไปนะครับ ตัวหนังเต็มไปด้วยความลึกลับและนัยยะต่างๆมากมายที่เราจะต้องตีความ อีกทั้งเนื้อเรื่องมีการตัดภาพสลับกันไปมาอาจทำให้ดูสับสน แต่ก็ทำให้หลอนด้วย ฉากจบเพียงไม่กี่นาทีจะสามารถอธิบายเรื่องราวทั้งหมด จากที่เรานั่งดูกันมาเกือบๆสองชั่วโมงได้ ถือว่าสุดยอดมากๆ นี่จะเป็นอีกหนึ่งฉากจบที่อยู่ในความทรงจำของทุกๆคนแน่นอน เป็นสไตล์หนังที่หาดูได้ยากในสมัยนี้

ระดับความสยอง 4 ดาว เหล่าตัวประหลาดน่ากลัวดีครับ ดูหลอนๆและจิตใช้ได้เลย อีกทั้งยังมีความระทึกขวัญใส่เข้ามาเป็นพักๆ เนื้อเรื่องก็มีความลึกลับซับซ้อนดี ดูแล้วเป็นอะไรที่น่าติดตามและน่าค้นหา ถึงแม้ตัวหนังจะเก่าแต่ดูดีเกินคาดครับ

ระดับความน่าดู 5 ดาวเต็ม สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นครับ อยากให้ได้ลองสัมผัสมันดูสักครั้ง มันเป็นสุดยอดหนังสยองที่เป็นยิ่งว่าคำว่าสยอง มีอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้คนดูได้ลุ้นและขบคิด จากคะแนน Imdb ที่ได้ถึง 7.5 โดยปกติธรรมดาหนังสยองขวัญ น้อยมากมากที่จะได้คะแนนถึงขนาดนี้ แค่ถึง 7 นี่ก็แทบไม่อยากเชื่อแล้ว แล้วคุณจะพลาดกับสุดยอดหนังสยองขวัญเรื่องนี้ไปได้ไง

นักแสดงทั้งหมดของเรื่อง

ทิม ร็อบบินส์
Jacob Singer

เอลิซาเบธ พีน่า
Jezzie

แดนนี ไอเอลโล
หลุยส์

พรูอิตต์ เทย์เลอร์ วินซ์
พอล

แมทท์ คราเวน
ไมเคิล

เอริก ลา แซลล์
แฟรงก์

แพทริเซีย คาเลมเบอร์
ซาราห์

เจสัน อเล็กซานเดอร์
เกียรี

ไบรอัน ทาแรนตินา
ดั๊ก

วิง ราเมส
จอร์จ

แอนโทนี อาเลสซันโดร
ร็อด

เบรนท์ ฮิงคลีย์
เจอร์รี

ลูวิส แบล็ค
Jacob’s Doctor

เอส เอพาต้า เมอร์เตอร์สัน
เอลซา

ดั๊ก แบร์รอน
Group Leader

ไคล์ แกส
โทนี

แอนโตเนีย เรย์
Woman on Subway

สก็อตต์ โคเฮน
Resident Doctor

เบ็คกี้ แอนน์ เบเคอร์
Nurse

แครอล ชไนเดอร์

ซูซาน เชพเพิร์ด
Hospital Receptionist

จอห์น คาโปไดซ์
Army Officer

ไบรอน มินส์
Orderly

โทมัส เอ. คาร์ลิน
Doorman

ไบรอัน ลาร์กิน

แซม คอปโปลา
Taxi Driver

เบลลินา โลแกน
Emergency Ward Nurse

เรจจี้ แมคแฟดเดน

คริส ฟิลดส์
Field Medic

สเตฟานี เบอร์รี่

กลอเรีย ไอริซาร์รี่
Mrs. Carmichael

เรย์มอนด์ แอนโทนี โทมัส

บิลลี นีล
เดลลา

เพอร์รี่ แลง

ไดแอน เคแกน

เจมี่ เพอร์รี่
Field Medic

บาร์บารา กรูเอน

ไมเคิล ทอมลินสัน
Field Doctor

จอห์น หลุยส์ ฟิชเชอร์
Machine Gunner

ยาน เซนต์

โจ ควินเทโร

ออร์สัน บีน

นอรา เบินส์

อลิสัน กอร์ดี้