รีวิว the black phone วันนี้ทางเราก็มีหนังสนุกๆมาแนะนำเพื่อนๆที่ชื่นชอบในการ ดูหนังออนไลน์ กับเรื่อง the black phone สายหลอน ซ่อนวิญญาณ เป็น หนังแนวระทึกขวัญ สยองขวัญที่ได้บอกเล่าเรื่องราวของเด็กชายวัย 13 ปี ชื่อว่าฟินนีย์ ที่ถูกฆาตกรต่อเนื่องที่อ้างตนว่าเป็นนักมายากลลักพาตัวไปขังเอาไว้ที่ห้องใต้ดิน ซึ่งมีโทรศัพท์ปริศนาที่สามารถเป็นสื่อกลางระหว่างเด็กชายฟินนีย์และเหยื่อคนก่อนๆ ของฆาตกรรายนี้ได้ ฟินนีย์จึงร่วมมือกับวิญญาณของเหยื่อทุกคน เพื่อเอาชีวิตรอดจากฆาตกรรายนี้ให้ได้ เรื่องราวจะน่ากลัวแค่ไหนอย่าพลาดที่จะติดตามชมกันเลยนะ และเรื่องนี้ก็หลอนไม่แพ้ his house ก็ว่าได้

รีวิว the black phone หนังผีหลอนๆ ห้ามพลาด

รีวิว the black phone หนังผีหลอนๆ ห้ามพลาด

มารู้จักกับ รีวิว the black phone หนังระทึกขวัญ ความหลอนสุดๆ

รีวิว the black phone The Black Phone สายหลอน ซ่อนวิญญาณ ว่าด้วยเรื่องราวของ ฟินนีย์ ชอว์ เด็กชายขี้อายแต่ชาญฉลาด วัย 13 ขวบ ที่ถูกไอ้มืดฉุดลักพาตัวไปขังอยู่ในห้องใต้ดินเก็บเสียง ที่ซึ่งการกรีดร้องไม่ก่อเกิดประโยชน์

 

ในตอนที่โทรศัพท์ไร้สัญญาณที่ติดอยู่ตรงผนังเริ่มส่งเสียงดังขึ้นมา ฟินนีย์ก็ค้นพบว่าเขาสามารถได้ยินเสียงของเหยื่อคนก่อน ๆ ของมัน และเหยื่อเหล่านั้นก็ตั้งปณิธานเอาไว้ว่าจะทำให้แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาจะต้องไม่เกิดขึ้นกับฟินนีย์

 

และนี่คืองานกำกับและเขียนบทของ “สก็อต เดอร์ริกสัน” ชิ้นงานที่เขาตัดสินใจเลือกที่จะสร้างแทนที่จะไปกำกับภาคต่อของหมอแปลกให้มาร์เวล โดยหนังเรื่องนี้หยิบเอาโครงเรื่องมาจากเรื่องสั้นของ “โจ ฮิลล์” มาขยายความเป็นหนังเขย่าขวัญ แนะนําสุดระทึก

 

ภายใต้ฉากหลังที่เป็นสังคในช่วงยุคปี 1970s ที่มาพร้อมกับบรรยากาศที่ชวนง่วงและชวนหลอนสะพรึงไปพร้อม ๆ กัน แม้ว่าองค์ประกอบหลานอย่างในหนังเรื่องนี้จะซ้ำซากเหลือเกิน แต่กลับมีกิมมิกที่ทำให้ดูจบแล้วสนุกได้

รีวิว the black phone หนังผีหลอนๆ ห้ามพลาด

the black phone (2021) ไม่สนใจที่จะเดินตามรอยวิธีการเล่าเรื่องสำเร็จรูปแบบหนังยุคใหม่เอาใจคนดูสมาธิสั้น (ยังแอบคิดว่า Derrickson ต่อต้านการทำหนังเป็นสวนสนุกแบบหนังมาร์เวลรึเปล่า) หนังเลือกที่จะเล่าเรื่องราวของกลุ่มตัวละคร

 

และสภาพบรรยากาศชุมชนเพื่อให้คนดูสัมผัสภูมิทัศน์ และวงจรชีวิตของผู้คน เพื่อให้คนดูซึมซับบรรยากาศ และผูกพันกับตัวละครแบบหนังสยองยุคเก่า ซึ่งในจุดนึง มันเสี่ยงมากที่จะทำให้คนดูเบื่อได้ และแม้แต่ตัวเราเองก็ยังแอบคิดในใจว่า “เมื่อไรมันจะมีอะไรเกิดขึ้นสักทีวะ”

 

ฉะนั้นสำหรับตัวแอด The Black Phone อาจจะไม่สามารถตีต่อมสยองแตก แต่ถ้ามอง The Black Phone ในฐานะหนังดราม่า coming-of-age บอกเลย น้ำตาไหลพราก

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อเรื่อง : The Black Phone (สายหลอน ซ่อนวิญญาณ)

ผู้กำกับ : สก็อต เดอร์ริกสัน

แนว : สยองขวัญ, ฆาตกรรม, เอาชีวิตรอด

ความยาว : 102 นาที

รีวิว the black phone หนังผีหลอนๆ ห้ามพลาด

ระบบเสียง : เสียงไทยและบรรยายไทย

ช่องทางการรับชม : วันนี้ทุกโรงภาพยนตร์

คะแนน : 7.5/10

เรื่องย่อ

เรื่องราวของ ฟินนีย์ ชอว์ (แมสัน เธมส์) เด็กชายวัย 13 ปี ที่มีนิสัยขี้อายและมักถูกรังแกเสมอ เขามีน้องสาวชื่อ เกวน ชอว์ (แมดเดอลีน แม็กกรอว์) ทว่าเด็กวัยรุ่นที่อยู่ในระแวกบ้านของพวกเขาได้หายตัวไปอย่างลึกลับ และเกว็น

 

ก็เป็นเด็กที่มีความสามารถคือ ความฝันของเธอมักกลายเป็นจริง เธอฝันเห็นเด็กที่หายไปถูกชายปริศนาจับตัวไป จนกระทั่งวันหนึ่งๆ จู่ๆ ฟินนีย์ก็ได้หายตัวไป เขาถูกจับตัวโดยชายปริศนา และถูกจับไปขังไว้ยังห้องใต้ดินปิดตาย ที่ต่อให้กรีดร้องแค่ไหนก็ไม่มีใครได้ยิน ในห้องใต้ดินมีโทรศัพท์สีดำที่พังไปแล้วอยู่

แต่อยู่ดีๆ เสียงโทรเข้าก็ดังขึ้น เมื่อฟินนีย์รับสาย ปรากฎว่าคนในสายคือวิญญาณของเด็กที่เคยถูกจับมาก่อนหน้านี้ และวิญญาณเหล่านี้จะคอยช่วยเหลือให้เขาหนีออกไป และหวังให้ฟินนีย์ล้างแค้นให้พวกเขา ในด้านของ เกวน ก็พยายามสืบหาความจริงจากความฝัน สุดท้ายแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร

วิเคราะห์หนังเรื่องนี้

เรื่องบท ส่วนตัวก็ไม่ได้แย่อะไรมากมาย แต่ก็ไม่ถึงกับดีจนต้องยกย่องขนาดนั้น เพราะพล็อตหลักๆ มันไม่ได้มีอะไรมากๆ แค่เด็กถูกจับไป และพยายามหนี ซึ่งมีพวกวิญญาณเด็กคอยช่วย

 

และไอจุดนี้แหละ ที่ไม่ซื้อเท่าไหร่ มันไร้เหตุผลไปหน่อย แบบจู่ๆ ก็มีผีช่วย คือถ้าไม่มีผี ไอเด็กนี่ก็ไม่รอดแน่ๆ เหมือนมีผีมาเสริมเพื่อให้เรื่องมันเดินต่อไปได้ เลยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ก็พอเข้าใจได้ และคิดว่าคนที่เชื่อเรื่องผีน่าจะชอบเรื่องนี้ได้ไม่ยาก อันนี้อยู่ที่ความเชื่อส่วนบุคคลจริงๆ ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเท่าไหร่

 

ต่อมาด้านการดำเนินเรื่อง ส่วนนี้ก็โอเคเลย ดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ กำลังดี ไม่ช้าไปไม่เร็วไป ทำบรรยากาศในเรื่องออกมาได้ดี เรื่องราวมีความน่าติดตามอยู่พอสมควร ไม่มีช่วงไหนอืดหรือน่าเบื่อ ต่อด้วยด้านการแสดง

 

ส่วนนี้ชอบพอตัวเลย นักแสดงหลักๆ แสดงได้ดี อย่างน้อง แมสัน เธมส์ รับบทเป็น ฟินนีย์ น้องเล่นดีเลยนะ แม้ว่ายังไปได้สุดกว่านี้ แต่ที่เป็นอยู่ก็ดีมากๆ แล้ว แสดงให้เราอินตามและช่วยลุ้นได้ดีเลย แต่คนที่โดดเด่นสุดๆ คงหนีไม่พ้น อีธาน ฮอว์ก รับบทเป็น ฆาตกรต่อเนื่อง ป๋าแกแสดงดีจัดๆ ขนาดไม่ได้เห็นหน้านะ

เพราะตัวละครตัวนี้ใส่หน้ากากแทบทั้งเรื่อง ส่วนใหญ่จะเห็นแค่แววตาเท่านั้น และป๋าแกแสดงออกมาได้ดีมาก แกสื่อสารอารมณ์ด้วยแววตาและน้ำเสียง เอาง่ายๆ คือ ทุกฉากที่ป๋าแกโผล่มา มันทำเอารู้สึกอึดอัดได้เลย ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ ก็แสดงได้ดีตามมาตรฐานทั่วไป

 

สุดท้ายด้านงานภาพและการโปรดักชั่น ส่วนนี้คือดีมากๆ เพราะเรื่องนี้เป็นหนังทุนต่ำ แต่ผลงานที่ออกมามันดีเกินคาด คืองานภาพและโปรดักชั่นไม่เหมือนหนังทุนต่ำเลย ฉากฆ่าหรือฉากสยองนี่ทำออกมาได้ดีมากๆ เลือดสาดจัดเต็ม สมจริงอยู่ในระดับนึงเลย

 

ฉากผีก็ทำออกมาหลอนดี และอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ บรรยากาศในหนังดีมากๆ เป็นสิ่งที่ชอบที่สุดในเรื่องเลย บรรยากาศมันดูหม่นๆ เงียบเชียบ มันทำให้เรารู้สึกไม่ไว้ใจ ไม่รู้จะมีผีโผล่มาตอนไหน มุมกล้องต่างๆ ทำออกมาได้ดี เสื้อผ้าหน้าผม การออกแบบตัวละครก็ดีเยี่ยม อันนี้ต้องชมเลย

 

หน้ากากและลักษณะของตัวละครฆาตกรทำออกมาได้ดีมากๆ ส่วนนี้ชอบมากเลย โดยรวมด้านงานภาพและโปรดักชั่นไม่มีอะไรจะติเลย สรุปเลยคือ ใครที่ชอบหนังผีกับหนังฆาตกรรม ไม่ควรพลาดเรื่องนี้จริงๆ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

ความน่าสนใจของเรื่องนี้ รีวิว the black phone

เซ็ตฉากยุค 70’s ได้สมจริงและชวนหลอนมาก ๆ สร้างบรรยากาศที่อึดอัดได้เป็นอย่างดี ไม่เน้นตุ้งแช่ วางสมดุลหนังทริลเลอร์-สยองขวัญได้ลงตัวและเป็นเหตุเป็นผล ทีมนักแสดงหลักทำผลงานได้ดีมาก จังหวะการเล่าเรื่องค่อนข้างเนือย คอหนังสายเร่งอาจไม่ชอบ

 

The Black Phone สายหลอน ซ่อนวิญญาณ ถือว่าเป็นหนังออนไลน์ที่สร้างเอกลักษณ์อันน่าจดจำให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี ทั้งในส่วนของจอมลักพาตัวและห้องใต้ดินที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ฆาตกรใช้เวลากับเด็ก ๆ ในห้องใต้ดินที่แสนเย็นชารวมไปถึงการระเบิดอารมณ์ระหว่างพ่อกับลูกสาวตัวเล็กที่ค่อนข้างสมจริง

 

ตัวละครใน The Black Phone สายหลอน ซ่อนวิญญาณ เรียกได้ว่าเฉลียวฉลาดมากทั้งตัวละครเอกที่เป็นเด็กที่สามารถมองหาวิธีการเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่เลวร้ายได้แบบมีไหวพริบ แตกต่างจากตัวละครในหนังสยองขวัญเรื่องอื่น ๆ

 

ที่มักทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมากขึ้นกว่าเดิมแบบแสนโง่เขลา ส่วนตัวร้ายเองก็มีการเล่นแง่ทางจิตวิทยาที่ดี แต่ในขณะเดียวกันก็มีบางจุดที่ดูจะทื่อ ๆ ไปสักหน่อยที่พอจะมองข้ามไปได้บ้าง

จุดด้อยของ The Black Phone Netflix สายหลอน ซ่อนวิญญาณ คือ การที่ไม่ได้เจาะลึกในส่วนของตัวละครนักลักพาตัวอย่างที่ควรจะเป็น ทำให้ผู้ชมไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงกลายมาเป็นเป็นฆาตกรฆ่าเด็กสุดแสนเหี้ยมโหดได้

 

บางส่วนของหนังยังไม่สมเหตุผลเท่าใดนัก โดยเฉพาะในเมืองที่มีเด็ก ๆ พากันหายตัวไปอย่างต่อเนื่อง แต่บรรดาผู้ปกครองเองก็ยังโอเค สถานการณ์ทุกอย่างปกติแล้วปล่อยให้ลูกเดินทางไปโรงเรียนเองโดยที่ไม่คิดจะไปรับไปส่ง สิ่งนี้มันค่อนข้างที่จะผิดปกติจากความเป็นจริงอย่างมาก

 

การที่ไม่ได้อธิบายบางส่วนของหนังทำให้เรื่องราวทั้งหมดไม่ได้รับการเคลียร์อย่างเหมาะสม ยิ่งในตอนท้ายของเรื่องราวจังหวะมันรีบเร่งมากจนเกินไปราวกับจะบอกเวลาเวลาหมดแล้วเร่งให้มันจบได้แล้ว

 

ทำให้จุดสุดยอดของหนังพากย์ไทถูกลดทอนความสนุกเร้าใจลงอย่างน่าเสียดาย และแน่นอนว่าทุกคนรอที่จะได้เห็นการสรุปเรื่องราวทั้งหมดให้เข้าใจ ถึงอย่างนั้นก็ยังคงถูกหักหลังด้วยการปล่อยผ่านสิ่งเหล่านั้นไปอย่างน่าเสียดาย

สุดท้ายแล้วเรื่องนี้น่าสนใจหรือไม่

โดยสรุป The Black Phone สายหลอน ซ่อนวิญญาณ คือหนังผี ทริลเลอร์ เอาตัวรอด ผสม Supernatural ในแบบฉบับของ สตีเฟน คิง ที่สามารถสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอึดอัด วางพล็อตหักมุมได้ชวนสะดุ้ง ขับเคลื่อนเรื่องด้วยความฉลาด ท้าทาย

เป็นเหตุเป็นผล น่าเอาใจช่วย ปูและเก็บกลับได้ดี แทรกด้วยมุกตลกร้ายกาจเล็ก ๆ ไว้แก้เลี่ยนด้วย นี่อาจไม่ใช่หนังที่ถูกใจคอหนังสยองขวัญสายคลุ้งคาวเลือด สย่องขวัญ เต็มเรื่องแบบตู้ม ๆ

 

แต่เป็นหนังลุ้นระทึกที่ได้บรรยากาศลุ้นบวกสยองที่เหมาะกับการดูในโรงหนังเพื่อให้ได้อรรถรสอย่างเต็มที่ รับรองว่าดูจบแล้วน่าจะหลอนเสียงโทรศัพท์​ไปอีกนาน