รีวิว the closet ภาพยนตร์ระทึกขวัญ สุดหลอน มาพบกับ ดูหนังออนไลน์ เรื่อง the closet ตู้นรกไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด ภาพยนตร์สยองขวัญของเกาหลี ผลงานเดบิวต์ครั้งแรกของผู้กำกับ คิมควางบิน ที่เขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเอง การจับต้องเรื่องความเชื่อและภูติผีสุดลี้ลับ เล่าเรื่องราวของ ซังวอน ชายที่สูญเสียภรรยาไปจากอุบัติเหตุ ทำให้เขาตัดสินใจพา อีนา ลูกสาวของตัวเองย้ายเข้าบ้านหลังใหม่ หวังจะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่แตกสลายของพ่อลูกกลับคืนมาใหม่ และค่อยๆ ลืมเรื่องราวร้ายๆ ที่ผ่านเข้ามา แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นตามที่วาดฝันเอาไว้ เมื่อเขาเริ่มฝันร้ายและได้ยินเสียงแปลกๆ ดังขึ้นจากตูปริศนาในบ้าน ตามมาด้วยการหายตัวไปอย่างลึกลับของลูกสาว ทำให้คุณพ่อต้องออกตามหาลูกที่หายไป และนำมาสู่การปรากฏตัวของ คยองฮุน ชาวลึกลับที่อ้างว่าลูกสาวหายไปเพราะตู้ปริศนาดังกล่าว ทำให้เขาต้องตัดสินใจครั้งสำคัญว่าจะค้นหาความจริงในตู้นั้นหรือไม่ อย่าพลาดที่จะไปติดตามกันนะที่ ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022
เรื่องย่อ the closet หนังผีเกาหลีออนไลน์ แนะนำ
รีวิว the closet ภาพยนตร์ระทึกขวัญ สุดหลอน ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราว “ซังวอน” (รับบทโดยฮา จองอู) และลูกสาว “อีนา” (รับบทโดย ฮอยูล) ได้เสียภรรยาและแม่ไป พวกเขาจึงย้ายบ้านใหม่เพื่อต้องการสร้างสายสัมพันธ์ให้กลับมาดีอีกครั้ง แต่ไม่ว่าซังวอนจะพยายามเท่าไร ลูกสาวของเขาก็ไม่ให้ความร่วมมือ แต่แล้วจู่ๆ อีนาก็กลับมามีเสียงหัวเราะ เหมือนกับว่าเธอมีเพื่อนใหม่
แต่เมื่อตู้ปริศนากลับมีเสียงแปลกๆ ดังขึ้น อีนาก็เริ่มทำตัวแปลกๆและหายตัวไปแบบไร้ร่องรอย ระหว่างการตามหา ซังวอนได้พบกับ “คยองฮุน” (รับบทโดยคิม นัมกิล) ชายลึกลับที่ ฟันธงว่าอีนาหายตัวไปในตู้นั้นอย่างแน่นอน… คุณเคยรู้สึกไหม? เวลาประตูตู้แง้มอยู่ เหมือนมีใครจากข้างในกำลังมองเราอยู่ เตรียมตัวสัมผัสประสบการณ์สยองขวัญแบบที่คาดไม่ถึง ใน“The Closet ตู้นรก ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด” แง้มความลับ สยองลั่นบ้าน วันนี้ ในโรงภาพยนตร์ออนไลน์ The Closet ตู้นรกไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด
เรียกได้ว่าจากกระแส Parasite ครองออสการ์น่าจะทำให้ปีนี้เราได้ดูหนังเกาหลีน่าดูในโรงกันมากขึ้นแน่ ๆ และที่ไม่รอช้าเลยก็คือสตูดิโอเจ้าของเดียวกันอย่าง Cj Entertainment ที่ขอเสิร์ฟหนังสยองขวัญบล็อกบัสเตอร์ทำเงินจากเกาหลีอย่าง The Closet มาให้คนไทยได้ชิมกันต่อ ยิ่งตลาดหนังเมืองไทยที่หนังผีคือแนวหนังชูโรงด้วยแล้ว ก็ไม่ได้ยากเกินคาดเดาเลยว่างานนี้กะมาทำเงินเอาตังค์จากนักดูหนังชาวไทยแน่ ๆ
แต่จะทำหนังผีตามกระแสหนังผีเอเซียเหมือนตอนต้นปี 2000 ก็กะไรอยู่ คราวนี้หนังอย่าง The Closet เลยปรุงรสเพิ่มทั้งประเด็นชนชั้นต่อเนื่องมาจาก Parasite และแถมด้วยวัฒนธรรมเชมัน หรือ การไล่ผีอันเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นของเกาหลี แล้วมาแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยสูตรหนังสยองขวัญครบรสแบบหนังผีของผู้กำกับ เจมส์ วาน ผลลัพธ์คือหนังสยองขวัญสุดบันเทิงและช่างคิดเรื่องนี้นั่นเอง
The Closet เป็นหนังผีหลอน กระตุกขวัญที่มีนักแสดงแถวหน้าอย่าง ฮาจองอู และ คิมนัมกิล เป็นแม่เหล็กเรียกความสนใจ และยังได้นักแสดงเด็ก หนูน้อยฮอยูล ที่เคยฝากฝีไม้ลายมือมาแล้วในซีรีส์ Mother (2018) และ The Guest (2018) ซึ่งเป็นแนวสยองขวัญเช่นกัน ถ้าใครเคยดู จะรู้ว่าน้องไม่ธรรมดาเลยล่ะ ทำให้เรื่องนี้มีความชวนดูขึ้นมาเยอะแน่นอน
เนื้อเรื่อง
ที่มาของเรื่องราวคือ สถาปนิก ยอนซังวอน (รับบทโดย ฮาจองอู) เพิ่งสูญเสียภรรยาที่รักจากอุบัติเหตุรถชน เขาและลูกสาววัยสิบขวบรอดชีวิตมาได้ แต่สภาพจิตใจก็ยังไม่เป็นปกตินัก ตัวเขาเองมีความเครียดจนต้องพึ่งยาบ้าง การย้ายบ้านไปอยู่ห่างเมืองวุ่นวาย เป็นบ้านหลังใหญ่ที่ดูสงบเงียบ อาจเป็นการพยายามเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ รวมถึงการพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกสาวที่กระท่อนกระแท่น ไม่ราบรื่นเอื้อต่อการทำหน้าที่พ่อเลี้ยงเดี่ยว
ลูกสาวของเขา ยอนอีนา (รับบทโดย ฮอยูล) จากเด็กสดใสสมัยยังมีแม่ ก็กลายเป็นเด็กอมทุกข์พูดน้อย ไม่เปิดใจให้พ่อที่พยายามพูดดีทำดีด้วย ข้าวของตุ๊กตาโปรดมากมายที่พ่อประเคนมาเอาใจเธอ ก็ได้เพียงความเย็นชากลับไป แต่แล้ว จู่ๆอีนาก็เปลี่ยนไป เป็นเด็กอารมณ์ดีขึ้นทันตา บอกว่าสนุกกับการเล่นตุ๊กตากับเพื่อนใหม่ในห้องของเธอ และในบางคืนซังวอนก็รู้สึกเหมือนหูแว่วได้ยินเสียงแปลกๆจากห้องอีนา แต่ก็ไม่เคยพบเห็นอะไร
เนื่องจากซังวอน มีภารกิจต้องไปดูแลไซต์งานก่อสร้างโปรเจกต์ใหญ่ที่ต้องห่างบ้าน จึงคิดจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูก แต่ช่างหายากเย็นเหลือเกิน จนเขาเริ่มคิดเรื่องการส่งลูกไปอยู่ประจำในค่ายศิลปะ ตอบโจทย์ทั้งคนดูแล และบำบัดสุขภาพจิตไปด้วย แต่เขาก็โชคดีได้พี่เลี้ยงมาทันการ และโชคร้ายก็ตามมาด้วย เพราะเป็นวันที่จู่ๆ อีนาก็หายสาบสูญไร้ร่องรอย
เขาติดตามหาลูกมานานหนึ่งเดือนเต็มโดยการพึ่งพาตำรวจ พึ่งพาสื่อ แต่ไม่ได้ผลใดๆสักทาง ซ้ำยังทำให้เรื่องราวแย่ลงไปอีก จนกระทั่งมีหมอผีหนุ่ม คยองฮุน (รับบทโดย คิมนัมกิล) เสนอตัวเข้ามาช่วยจัดการตามหาอีนา เพราะเชื่อว่าเธอหายไปในมิติของโลกคนตายที่อยู่ระหว่างการไปสู่ปรโลก
ปฏิบัติการต่อสู้กับภูติผีวิญญาณร้ายเพื่อนำตัวอีนากลับมาให้ได้ในเวลาที่จำกัดจึงเกิดขึ้น ซังวอนจะได้ตัวอีนาคืนกลับมาหรือไม่ ด้วยวิธีการอย่างไร ที่มาของอาถรรพ์สยองนี้คืออะไร และหมอผีคยองฮุนจะมีบทบาทอย่างไรบ้าง ต้องไปติดตามลุ้นดูกันเอง
ความรู้สึกหลังดู
หลังดูหนังจบสิ่งที่สังเกตได้ชัดเจนมากคือร่องรอยแรงบันดาลใจของหนังผีออนไลน์แบบเจมส์ วาน ที่อยู่ในแต่ละองค์ประกอบของหนัง โดยเฉพาะประเด็นความสัมพันธ์ในครอบครัว การเล่นกับพื้นที่และสิ่งของในบ้านที่แทบจะเหมือน The Conjuring หรือหนังในตระกูลใกล้เคียงกัน ตลอดไปจนการสอดแทรกอารมณ์ขันเมื่อตัวละครอย่าง คยองฮุน ปรากฎตัวขึ้น แต่ก็ไม่ได้เป็นการเลียนแบบอย่างไร้ยางอายตรงกันข้าม มันยังเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่พยายามหนีไม่ให้หน้าหนังไปเทียบเคียงกับงานหนังฮอลลีวูดเรื่องดัง แถมยังมีศักดิ์ศรีที่พอแข่งกันได้อย่างสมศักดิ์ศรีอีกด้วย
ความน่ากลัวของหนัง สำหรับฉากสยองขวัญที่ส่วนตัวมองว่าน่ากลัวที่สุดหนีไม่พ้นการปรากฎตัวของผีหมอผี และการหลบจากการโจมตีของเหล่าผีเด็กที่ทำให้ ซังวอน ไม่อาจลืมตาได้ ซึ่งตรงนี้นี่เองที่ถือว่าหนังสามารถทำได้อย่างชวนลุ้นระทึก น่ากลัว และสยองขวัญสมใจคนอยากดูหนังผียิ่งนัก
แต่กระนั้นก็ตามอย่างที่บอกไปในย่อหน้าที่แล้วว่ามันคล้ายหนังผีของเจมส์ วานตรงที่มันต้องมีครบรสซึ่งก็ทำให้ช่วงหลังของหนังทอนความน่ากลัวออกแล้วไปเน้นให้ลุ้นระทึกไปกับการสอบสวนหาความจริง ที่ก็ดันไปพูดเรื่องชนชั้นแบบเดียวกับ Parasite อีก ซึ่งก็ถือว่าเป็นประเด็นร่วมที่คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้และทำให้บทหนังของ the closet netflix มีสาระที่ทำให้คนดูได้ออกมาถกเถียงกันต่อได้ดี แม้จะไม่เข้มข้นเท่าของหนังออสการ์เรื่องดังก็ตาม
และแน่นอนแล้วว่าสำหรับเกาหลี หนังคือเครื่องมือเผยแพร่วัฒนธรรมดังนั้น The Closet จึงพาเราไปรู้จักกับวัฒนธรรมหมอผี หรือเชมัน ในลัทธิชิน ซึ่งถือเป็นรากเหง้าทางวัฒนธรรมของเกาหลี แถมรัฐบาลยังสนับสนุนงานวิจัยและการสร้างสรรค์งานแสดงจากรากเหง้าวัฒนธรรมนี้อย่างจริงจังด้วย (จริงจังขนาดไหนก็ถึงขนาดผลักดันให้กลายเป็นนาฏศิลป์ร่วมสมัยแสดงที่โรงละครขนาดยักษ์)
และก็ดันประจวบเหมาะกับการพยายามผลักดันให้มันมาอยู่ในสื่ออันทรงพลังอย่างภาพยนตร์ netflix โดยก่อนหน้านี้วัฒนธรรมการไล่ผีก็อยู่ในหนังอย่าง The Wailing ของผู้กำกับนาฮงจินมาทีนึงแล้ว และกับ The Closet มันก็ทำให้เกิดตัวละครอย่าง คยอง ฮุน ที่แทบไม่ต่างจากซูเปอร์ฮีโรมาปราบผีหรือหมอผีเท่ ๆ อย่าง คอนแสตนติน ของอเมริกาได้เลย ซึ่งก็ถือเป็นการเอาวัฒนธรรมชามันมาขายให้ชาวโลกได้รู้จักแบบเนียน ๆ ได้อีกด้วย
ควรค่าแก่การดูหรือไม่
รีวิว the closet ภาพยนตร์ระทึกขวัญ สุดหลอน คำถามแรกสุดสำหรับการรีวิวหนังผีทุกครั้ง มักถูกถามว่าน่ากลัวไหม ดูดีไหม คนกลัวผีจะดูไหวไหม อันนี้ก็คงต้องขึ้นอยู่กับความชอบ และความจิตแข็งของแต่ละคน ผู้เขียนคงบอกได้แค่ว่า หนังผีก็ต้องมีฉากผีหลอนเป็นเรื่องปกติ หลอกธรรมดาคงไม่ตกใจ ก็ต้องหลอกทีเผลอให้สะดุ้ง โหมภาพและซาวน์ให้ตื่นเต้นระทึกขวัญ จึงจะสมศักดิ์ศรีเป็นหนังผีออนไลน์ใช่ไหม เรื่องนี้ก็จัดให้พอชวนขนลุกอยู่บ้าง
ความน่าดูของการปราบผีเรื่องนี้ มีการเสริมกรรมวิธีที่ทันสมัย อิงความเป็นวิทยาศาสตร์บ้าง เขย่ารวมไปกับความเป็นไสยศาสตร์ด้วยพิธีกรรมแบบพื้นบ้านดั้งเดิม ทำให้โทนโดยรวมดูทันสมัย น่าติดตามมากขึ้น เพิ่มน้ำหนักความน่าเชื่อถือด้วย
ความน่าสนใจของเนื้อหาที่ขมวดเรื่องความสัมพันธ์พ่อลูก ครอบครัว มาใช้วางพลอตและคลี่คลายปม การแฝงสะท้อนปัญหาสังคมเล็กๆเรื่องความยากจนของคนหาทางออกไม่ได้ การฆ่าตัวตาย และปัญหาเด็กหายซึ่งมีเยอะมากในทุกๆสังคม ก็เป็นสาระที่ดี แต่ในมุมของการถ่ายทอดอารมณ์ดูจะไปได้ไม่สุดนัก เพราะตัวบทที่อาจไม่เอื้อการขยี้อารมณ์ เนื้อหาไม่ได้ทะลุปล้องจากที่มายันที่ไปให้อินตามได้สุด
ส่วนมุมอารมณ์ขันที่หยอดแซมไว้บ้าง ก็ชวนให้โมเมนท์ของซังวอนกับคยองฮุน ในสถานะของผู้ว่าจ้าง-ผู้รับจ้างมืออาชีพ ซึ่งในอีกมุมหนึ่งก็เรียกได้ว่าเป็นคู่หูกลายๆ มีเคมีที่น่ารักดี มีความโบรมานซ์นิดๆ บุคลิกของคิมนัมกิลบางส่วน ดูแล้วก็จะชวนนึกถึงเขาในซีรีส์ The Fiery Priest เลย แค่ว่าไม่ได้หัวร้อนแบบนั้น
ปิดท้ายด้วยความรู้สึกแรกที่ผู้เขียนเห็นจั่วหัวชื่อเรื่องจากเกาหลีมาว่า The Closet ก็ชวนให้นึกถึงตู้พิศวงในเรื่อง Narnia ขึ้นมาทันที เพราะมีความเป็นตู้ที่มีมิติลึกลับเหมือนกัน แต่ The Closet อาจเป็นภาคดาร์คภาคหลอนของ Narnia ซะมากกว่า 555 ยิ่งเมื่อเจอชื่อไทยเข้าไป ‘ตู้นรก ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด’ บางคนอาจถึงขั้นผงะกลัวขาสั่น ตั้งใจให้เป็นผีหลอนๆฉบับจริงจังมาก เอาเป็นว่าถ้าใครชอบขนลุกแบบมีเนื้อหาสาระ ก็ลองหามาชมกันดูได้ สนุกพอใช้ได้
สรุปแล้ว The Closet ก็คือหนังผีดูสนุก ๆ นั่นแหละ มีทั้งฉากผีแฮร่ น่ากลัว ๆ มีทั้งฉากหลบผีชวนลุ้นระทึก รับรองใครที่ชอบตามหนังผีของเจมส์ วาน ก็น่าจะได้อรรถรสไม่แพ้กัน แถมพ่วงด้วยวัฒนธรรมเชมันได้อย่างชาญฉลาดและยังพูดเรื่องชนชั้นต่อจาก Parasite มาเป็นกลวิธีการเฉลยเรื่องได้อย่างชาญฉลาดเลยแหละ
จุดเด่นและจุดสังเกต
สนุกแบบเทียบชั้นหนังผีของเจมส์ วานได้เลย ขายวัฒนธรรม ชามัน ได้แนบเนียน มีพูดเรื่องชนชั้นในหนังต่อจาก Parasite ด้วย บทหนังอาจยังมีช่องโหว่บ้าง แต่ความสนุกของหนังมีมากกว่า